“สตรีทอาร์ต” ศิลปะข้างถนนที่พวกเรามันจะพบเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวันจนคุ้นเคย เรียกได้ว่าแทบทุกตรอกซอกซอยล้วนมีงานสตรีทอาร์ตแอบซ้อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการเขียน Tag ชื่อกลุ่มบนตู้โทรศัพท์ หรือการพ่น Graffiti บนกำแพงจากศิลปินมีชื่อผู้ตั้งใจสร้างผลงาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้หลายคนอาจจะมองว่าขัดกับกฎหมาย และสร้างความสกปรกให้กับบ้านเมือง แต่เหตุใดเล่าถึงมีกลุ่มคนอีกจำนวนไม่น้อยที่พยายามจะสร้างสรรค์งานเหล่านี้ออกมา และพวกเขาได้อะไรตอบแทนจากการกระทำเช่นนี้
บ่ายของวันอาทิตย์อันแสนอบอ้าวของย่านสะพานเหล็กแดนสวรรค์ของเด็กที่เติบโตมาในยุค 90s เรามีนัด ฐิติภูมิ เพ็ชรสังข์ฆาต หรือ กอล์ฟ เจ้าของชื่อลายเซ็น “AnOfficerDies” กราฟิกดีไซเนอร์หนุ่มจาก Ductstore ผู้หลงใหลในศิลปะสตรีทอาร์ต และเป็นเจ้าของคาแรคเตอร์ MillionMonsters ปิศาจขนฟูหน้าตายียวนกวนประสาท ซึ่งในขณะนี้เขากำลังวุ่นอยู่กับการพ่นสีสเปรย์บนกำแพงเป็นรูปร่างของมอนสเตอร์ทั้ง 4 ตัว ซึ่งเราไม่รอช้ารีบเข้าไปคุยกับเขาทันที
กอล์ฟเล่าให้พวกเราฟังถึงจุดเริ่มต้นของ MillionsMonster ว่าเกิดจากช่วงที่กระแสฮิปสเตอร์แบบนิตยสาร Kinfolk กำลังได้รับความนิยม และเป็นยุคสมัยที่คนวัยหนุ่มสาวมากมายกำลังเริ่มค้นหาตัวตนของพวกเขา ด้วยการออกไปถ่ายรูป ปลูกต้นไม้ หรือเป็นเจ้าของธุรกิจร้านกาแฟ แต่สำหรับตัวของกอล์ฟนั้นตลอดชีวิตการทำงานเขามีอยู่ทักษะอยู่อย่างเดียวคือการทำกราฟิกดีไซน์และได้เกิดคำถามขึ้นในใจว่าเขาควรจะทำอะไรต่อไปในอนาคต
จนอยู่มาวันหนึ่งเขาได้สังเกตุเห็นรอยแตกของสีบนประตูบ้าน แล้วเกิดนึกสนุกลองหยิบปากกามาวาดหน้าตาให้กลายเป็นปิศาจ แล้วอัพรูปลงอินสตาแกรมและมีกระแสตอบรับที่ดี กอล์ฟเริ่มรู้สึกทันทีว่านี่คือสิ่งที่เขากำลังค้นหาอยู่จึงออกวาดเพื่อเติมเต็มชีวิตเรื่องราวให้กับสิ่งต่างๆ บนท้องถนนไม่ว่าจะเป็นบนกำแพง กรวยกั้นถนน หรือแม้แต่กระป๋องซึ่งถูกวางทิ้งไว้ จนมาถึงจุดหนึ่งที่เขาคิดว่ามันน่าจะต่อยอดออกไปได้จนเริ่มสร้างคาแรคเตอร์ของตัวเองขึ้นมา
“ หลักๆ แล้วการงานของผมเปรียบเหมือนกับการใช้ศิลปะบำบัด เป็นการระบายความความคิดหรือข้อความที่ไม่สามารถพูดออกมาได้ผ่านลายเส้นและตัวการ์ตูนที่เราออกแบบขึ้น เหมือนเวลาที่เราอยากจะบ่นอะไรสักอย่างแต่ไม่สามารถบอกใครได้ หรือเวลาเราอยากได้เสื้อผ้ารองเท้าที่มีราคาแพงแล้วเราไม่สามารถซื้อมาใส่ได้ แต่ผมสามารถสร้างให้ตัวละครผมพูดหรือสวมใส่สิ่งเหล่านั้นได้ ” เขาอธิบายคร่าวๆ ถึงเรื่องราวในการสร้างเหล่า MillionMonster ขึ้นมา
“ เคยมีรุ่นพี่คนหนึ่งกล่าวว่า สิ่งที่เราทำจะไม่เป็นของเราอย่างแท้จริง จนกว่าเราจะทำมันจนครบหนึ่งหมื่นชั่วโมง ซึ่งตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจความหมายจน ได้มานั่งคิดว่าตัวการ์ตูนของเรานั้นใครๆ ก็สามารถวาดได้ แต่การที่เราวาดไปเรื่อยๆ จะสามารถทำให้ทุกคนเห็นบ่อยขึ้นซ้ำๆ จนเขาจำได้ว่านี่คือผลงานของเรา ดังนั้นผมจึงวาดภาพและปล่อยภาพสเก็ตอย่างน้อยวันละ 1-2 ภาพลงในอินสตาแกรมส่วนตัว เพื่อฝึกฝนให้งานของเรามีความชัดเจนมากขึ้น ” นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมอินสตาแกรมของเขาจึงเต็มไปด้วยภาพสเก็ตของเหล่า MillionsMonster ในอริยาบทต่างๆ มากกว่าจะเป็นรูปเรื่องราวชีวิตของเขาเอง
สาเหตุที่เลือกทำงานสตรีทอาร์ตมากกว่าศิลปะประเภทอื่น
สตรีทอาร์ทสำหรับคือศิลปะที่ผสมผสานไลฟ์สไตล์ของตัวศิลปินที่ต้องทำงานบนท้องถนน ทุกครั้งที่เราออกไปทำงานก็จะเลือกอุปกรณ์รวมถึงเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมกับงาน เนื่องจากเราตั้งใจแต่แรกว่าจะเก็บภาพเบื้องหลังขณะทำงาน ดังนั้นเราจึงต้องใส่ใจเรื่องสไตล์ของตัวเองด้วย ในส่วนของผลงานสตรีทอาร์ตไม่ต่างกับศิลปะอื่นเลยในแง่ของแนวคิด แต่ต่างกันด้วยวิธีทำงานที่มีข้อจำกัดมาก และต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอยู่เสมอ เพราะมันคือการส่งต่อความคิดเราจากมือไปสู่กับแพงเพื่อสื่อสารกับผู้คน ซึ่งกระบวนการเหล่านั้นทำให้เราได้เข้าไปอยู่ในสถานที่ที่ไม่เคยไป ได้เจอผู้คนและประสบการณ์ใหม่ๆ
เทคนิคที่สร้างเอกลักษณ์ให้กับงานของตัวเอง
ผมไม่มีเทคนิคเฉพาะตัวอะไรมาก ใช้เทคนิคแบบธรรมดาเกือบทุกอย่าง เพียงแต่ผมจะมองก่อนว่าต้องการให้ผลงานออกมาเป็นอย่างไร ถ้าอยากได้งานที่ละเอียดเราก็ต้องใช้พู่กันเข้ามาช่วย หรืองานที่ต้องการความรวดเร็วก็อาจจะจะนำลูกกลิ้งสีมาใช้ร่วมด้วย ซึ่งความยากของการทำงานประเภทนี้อยู่ตรงที่เราไม่สามารถควบคุมสีสเปรย์ได้ดีเท่าปากกา เลยเป็นจุดที่ต้องพยายามพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้ใกล้เคียงมากที่สุด ทุกวันนี้เราจึงฝึกฝนทักษะการใช้สีสเปรย์อย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าทักษะจะติดตัวเราไปจนวันตาย ถึงแม้สไตล์การทำงานอาจเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัยก็ตาม
งานสตรีทอาร์ตกับสังคมไทยในปัจจุบัน
ผมมองว่าทุกวันนี้สังคมไทยเปิดรับกับศิลปะแนวนี้มากขึ้นเพราะทุกคนเข้าถึงสื่ออินเทอร์เน็ตและโซเชี่ยลมีเดียมากกว่าเดิม ทำให้เริ่มรู้ว่าแบรนด์ยักษ์ใหญ่ทั่วโลกกำลังพยายามนำงานสตรีทอาร์ตมาอยู่บนสินค้าของตัวเอง ทำให้คนทั่วไปเริ่มเข้าใจได้ว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่จะทำให้บ้านเมืองเลอะเทอะเพียงอย่างเดียว รวมถึงศิลปินก็เริ่มมีการแข่งขันกันที่จะสร้างผลงานออกมาเพื่อต่อยอดให้เกิดรายได้กับตัวเอง ผมคิดว่าตลาดประเทศไทยกำลังสนุกกับเรื่องนี้ และมีกลุ่มคนที่สนับสนุนให้ศิลปินมีกำลังใจอยากทำงานต่อไป แต่ก็ยังมีบางส่วนที่อาจจะไม่เข้าใจซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา
ระยะเวลา 2 ปี ที่เริ่มสนใจศิลปะแนวนี้ ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นกับเราบ้าง
สำหรับงานประจำของเราที่เป็นกราฟฟิกดีไซเนอร์นั้นเราต้องพัฒนาขึ้นในทุกด้านอยู่แล้ว เพราะมันเป็นสิ่งที่จะคอยหล่อเลี้ยงชีวิตเรา แต่สำหรับงานที่ทำควบคู่กันอยู่นั้นมันเป็นส่วนช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับชีวิตมากขึ้น ต้องดูแลสุขภาพตัวเองเพื่อที่จะไปยืนพ่นสีสเปรย์กลางแดดได้ เมื่อทำแล้วเกิดความสุขมันก็จะส่งผลดีต่อชีวิตและการทำงานหลักของผม ทุกวันนี้อย่างน้อยผมจะวาดภาพบนกระดาษและโพสต์ลงอินสตาแกรมทุกวัน
ตั้งเป้าว่าจะพัฒนา MillionsMonster ต่อยอดไปในทิศทางใด
ช่วงนี้ก็จะมีงานจ้างออกไปพ่นกำแพงหรืองานเพ้นท์บ้าง และมีงานอีเว้นต์ติดต่อมาบ้างเล็กน้อย แต่งานส่วนตัวเราก็มีทั้งเสื้อยืดที่เพิ่งขายหมด เป้าหมายในอนาคตอันใกล้คืออยากจัดงาน exhibition เดี่ยวของตัวเอง ซึ่งเราอาจจะต้องทุ่มเทกับมันมากเสียหน่อย ด้วยความอยากที่จะทำให้ภาพสเก็ตบนกระดาษของเราให้กลายเป็นงานที่สมบูรณ์ อีกสิ่งหนึ่งคือต้องการส่งต่อแรงบันดาลใจไปสู่เด็กรุ่นใหม่ที่อยากวาดรูป เพราะสมัยก่อนถ้าเราพูดกับทางบ้านว่าอยากเป็นศิลปิน เขาจะไม่มีทางเข้าใจเลยว่ามันจะสามารถอยู่รอดได้อย่างไร แต่ทุกวันนี้สิ่งที่เราทำสามารถตอบได้หมดแล้วว่าถ้าคุณมีฝีมือและผลงานที่ชัดเจนทุกคนก็พร้อมจะซัพพอร์ตและให้โอกาสคุณ
ช่วยเล่าประสบการณ์ทำงานที่ประทับใจที่สุดให้พวกเราฟังหน่อย
อาจจะดูเป็นความประทับใจที่ค่อนข้างขมขื่นหน่อย คือมีอยู่ช่วงหนึ่งผมแทบไม่มีเงินติดตัวเลย และเป็นช่วงเวลาที่ผมมีภาระค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่ระหว่างที่กำลังคิดว่าแก้ปัญหาอย่างไรดี ก็มีน้องที่รู้จักคนหนึ่งโทรศัพท์มาหาแล้วบอกว่าเขากำลังจะเปิดออฟฟิศและมีชั้นดาดฟ้าว่างอยู่เราสามารถเพ้นท์ให้เขาได้ไหม ซึ่งผมตอบตกลงทันที นั่นเป็นจุดที่ประทับใจว่าในช่วงเวลาที่ลำบากที่สุด สิ่งที่เราทำสนุกๆ เพราะความชอบมันสามารถกลับมาช่วยเราในยามนี้ได้ และมันได้กลายเป็นอาชีพของเราไปแล้ว
สุดท้ายนี้อยากให้ฝากอะไรถึงคนรุ่นใหม่ที่กำลังฝันอยากจะเป็นศิลปิน
ผมบอกกับทุกคนเสมอว่าทุกคนควรก้าวออกจากคำว่า “จะทำ” และออกไป “ลงมือ” ด้วยตนเองจริงๆ ซึ่งเมื่อคุณได้ทดลองทำคุณก็จะเจอกับปัญหาและได้ลองผิดลองถูกด้วยตนเอง สุดท้ายแล้วค่อยกลับมาตอบคำถามตัวเองว่ามีความสุขที่จะทำหรือเปล่า ถ้าหากสุดท้ายแล้วไม่ชอบก็ยังดีที่ได้ลองทำ
การคิดแล้วไม่ลงมือทำมันไม่สามารถสร้างอะไรให้เกิดขึ้นบนโลก และมันจะอยู่ในหัวของเราเพียงคนเดียว ยุคสมัยนี้ทุกประตูเปิดรับคนมีความสามารถอยู่ที่คุณจะเลือกเดินไปทางไหน สิ่งที่คุณทำนั้นจะบอกเองว่าคุณมีความตั้งใจมากเพียงใด ถ้าคุณตั้งใจทำมันจะมีคุณค่า และถ้ามันมีคุณค่าจะต้องมีสักคนที่เห็นค่าสิ่งที่คุณทำ
และทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของ AnOfficerDies สตรีทอาร์ตทิสที่มีมุมมองและแนวคิดที่น่าสนใจ และยังมีผลงานที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ด้วยคาแรคเตอร์ MillionsMonster ที่เขาสร้างขึ้น ซึ่งบทสัมภาษณ์ของเขาน่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับศิลปินรุ่นใหม่ หรือคนทั่วไปให้เข้าใจคำว่า “สตรีทอาร์ต” มากขึ้น