3 มิถุนายน ค.ศ. 2016 เวลา 21:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ในโรงพยาบาลในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา เกิดข่าวใหญ่แห่งวงการกีฬามวยระดับโลก! สร้างความตกใจและแสดงความเสียใจของการจากไปบุคคลสำคัญอย่าง! “มูฮัมหมัด อาลี” ด้วยโรคพาร์กินสันและระบบทางเดินหายใจ
หากผู้อ่านอายุราวๆ 20 ปี อาจจะยังเกิดไม่ทันในยุคที่ “มุฮัมหมัด อาลี” รุ่งโรจน์ถึงขีดสุดในวงการมวยอาชีพ เจ้าของฉายา “โบยบินเหมือนผีเสื้อ ต่อยเจ็บเหมือนผึ้ง” (Float like a Butterfly, Sting Like a Bee) ไม่เป็นไร?! ยังโชคดีที่โลกมีเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต แน่นอน SneakaVilla จะค้นความยิ่งใหญ่นี้ขึ้นมาอีกครั้ง! ทั้งสิ่งที่น่าสนใจ และตัวตน มาทำความรู้จักไปพร้อมๆกัน!!
มูฮัมหมัด อาลี (Muhammad Ali) หรือ เคสเซียส มาเซลลัส เคลย์ จูเนียร์ (Cassius Marcellus Clay Jr.) อดีตแชมป์โลกเฮฟวี่เวตผู้ยิ่งใหญ่ได้เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 74 ปี เรื่องราวอันเป็นตำนานจึงถูกพูดถึงเป็นวงกว้างอีกครั้ง !! ทั้งวลีอมตะ “โบยบินดุจผีเสื้อ ต่อยเจ็บเหมือนผึ้ง” “ฉายาสิงห์จอมโว” “ความกล้าหาญในเปลี่ยนชื่อ การเปลี่ยนศาสนา” “ปฏิเสธไม่ไปรบที่เวียดนาม” และ “หัวใจอันยิ่งใหญ่ด้านมนุษยธรรม”
ก้าวเข้าสู่เวทีผืนผ้าใบ เพราะจักรยาน
เด็กชายแคลเซียส เคลย์ (ชื่อเดิม) ในวัย 12 ปี ถูกขโมยจักรยานราคา 60 ดอลลาร์ที่เพิ่งซื้อมาใหม่เอี่ยมจากเด็กระแวงบ้านเดียวกัน ในเดือนต.ค. 1954 ที่บ้านเกิดเมืองหลุยส์วิลล์ รัฐเคนตั๊กกี้ สหรัฐอเมริกา ทันใดนั้นมีคนแนะนำให้เข้าร้องเรียนกับตำรวจนายหนึ่ง เขาระบายด้วยความเจ็บใจกับตำรวจนั้นว่า “ถ้าเจอตัว ผมจะต่อยให้คว่ำเลยคอยดู!” แน่นอนจากวันนั้นครูฝึกเขาเป็นนายตำรวจ ชื่อ โจ มาร์ติน (Joe Martin) เชื้อสายไอริช
ตำนาน “มูฮัมหมัด อาลี” จึงเกิดขึ้น ณ บัดนั้น.
ภาพล้อเลียนอาลียืนตระหง่านอยู่เหนือร่างของซอนนี่ ลิสตัน พร้อมตะโกนท้าทายให้ลิสตันลุกขึ้นมาสู้ต่อ หลังจากสามารถส่งร่างของลิสตันลงกองกับพื้นเวทีได้สำเร็จในยกแรก (ซึ่งภาพนี้ของจริงได้ถูกจัดอันดับให้เป็นภาพข่าวกีฬาสวยที่สุดเป็นอันดับ 1 จากทั้งหมด 50 อันดับ จากการจัดของฝ่ายข่าวกีฬา หนังสือพิมพ์เดลิเมล์ของอังกฤษ)
ซ้อม ซ้อม ซ้อม
“สมัยยังเรียนไฮสคูล เขาเลือกที่จะวิ่งไปโรงเรียนแทนนั่งรถบัส ซึ่งห่างจากบ้านประมาณ 20 บล็อค มีความตั้งใจเอาดีด้านหมัดมวยอย่างไม่ต้องสงสัย นอกจากจะดูแลทะนุถนอมร่างกายดีแล้ว เขายังมีวินัยทั้งในการกินและฝึกซ้อม
“เขาเป็นคนแรกที่มาถึงยิม และเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากยิม แคลเซียสเป็นเด็กมีวินัยมากที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้จัก ที่สำคัญเขาเป็นคนสนุกสนาน เขาเดินเข้ามาในยิมแล้วจะทำให้ที่นั่นสว่างไสวขึ้น”
“แอนเจโล ดันดี (Angelo Dundee) เทรนเนอร์คู่ใจพูดถึงเขา!
โยนเหรียญทองโอลิมปิกทิ้งแม่น้ำ
หลังคว้าเหรียญทองโอลิมปิกรุ่นไลท์เฮฟวี่เวทด้วยวัยเพียง 18 ปี ในเดือนส.ค. 1960 เขาห้อยเหรียญทองไว้ด้วยความภูมิใจ และนำเหรียญทองโอลิมปิกกลับมาให้คนหลุยส์วิลได้ชื่นชม แม้ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อ เลือด และความเจ็บปวด แต่กลับต้องเจอเรื่องน่าละอายที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต!!!! เพราะขณะนั้นเมืองหลุยส์วิลและภาคใต้ของสหรัฐมีกระแสการเหยียดสีผิวกระเพื่อมรุนแรงมาก! คนดำไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าใช้บริการในภัตตาคาร โรงแรม โรงภาพยนตร์ รวมถึงตัวเขาเองด้วย
เขาตัดสินใจโยนเหรียญทองโอลิมปิกลงแม่น้ำโอไฮโอทันที! หลังเจอเหตุการณ์นี้!
สิงห์จอมโว
ฉายา “สิงห์จอมโว” ถือเป็นกลยุทธ์ที่สร้างสีสันให้เขาชนิดยากที่จะหาใครมาเปรียบ! เขาเป็นคนมีวาทศิลป์ที่ดีคนหนึ่ง เป็นเจ้าสำบัดสำนวน มั่นอกมั่นใจ และไหวพริบดียิ่ง วีรกรรมที่ถูกจดจำไม่มีวันลืมคือ การทำนายล่วงหน้าว่าจะคว่ำคู่ต่อสู้ในยกต่างๆ สัมภาษณ์ยียวนกวนประสาทคู่ชกฝ่ายตรงข้าม.
ศาสนาและชื่อ
หลังคว้าแชมป์โลกรุ่นเฮฟวีเวท ปี 1964 เขาสร้างความฮือฮาอีกครั้งด้วยการประกาศตัวนับถือศาสนาอิสลาม และเปลี่ยนชื่อเป็น “มุฮัมหมัด อาลี” โดยเหตุผลที่ว่าต้องการปลดแอกให้พ้นจากอํานาจหรือการกดขี่จากชื่อที่คนขาวตั้งให้สมัยยุคค้าทาส และภูมิใจในความเป็นคนผิวดำ
ผมไม่เคยทะเลาะกับพวกเวียดกง!
ในปี ค.ศ. 1966 อาลีถูกหมายเรียกเกณฑ์ทหารให้ไปรบที่เวียดนาม ก่อนปฏิเสธว่า “ผมไม่เคยทะเลาะกับพวกเวียดกง! (I ain’t got no quarrel with them Viet Cong)”
คำตอบโต้ของเขากลายเป็นประโยคอมตะ และจุดกระแสต่อต้านสงครามเวียดนาม ซึ่งแน่นอนมันสร้างปัญหาให้กับเขาในเวลานั้น ทั้งการรุมถล่มข้อหาไม่รักชาติ ถูกดำเนินคดี ยึดพาสปอร์ต ถูกริบตำแหน่งแชมป์โลก ถูกสั่งห้ามชกเป็นเวลาสามปีครึ่ง สูญเสียรายได้นับล้านดอลลาร์ หล่นจากบัลลังก์ในช่วงที่รุ่งโรจน์ที่สุดในชีวิตก็ว่าได้! แต่ทว่าเขาไม่เคยเสียใจเลย
“ผมจะเป็นนิโกรคนเดียวที่ชาวผิวขาวจัดการไม่ได้ คุณเข้าใจไหม? นิโกรคนเดียวที่คุณไม่มีวันจัดการได้”
เจ็บตัวที่สุด
สำหรับการชกที่ถือว่าเขาต้องเจ็บตัวมากที่สุด คือการพ่ายแพ้แก่ เคน นอร์ตัน (Ken Norton) นักมวยโนเนมในขณะนั้น เมื่อวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 1973 แม้จะเป็นฝ่ายแพ้คะแนน แต่หลังการชกอาลีถูกตรวจพบว่าถึงกับกรามหักจากฤทธิ์หมัดของนอร์ตัน
โรคพาร์กินสัน
“พระผู้เป็นเจ้าให้ผมได้พบกับโรคร้ายนี้ เพื่อเตือนว่าผมไม่ได้ยิ่งใหญ่ที่สุด พระองค์ต่างหากที่ยิ่งใหญ่ที่สุด”
“หลังแขวนนวมเขาถูกตรวจพบโรคพาร์กินสันในปี 1983 ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาเริ่มสังเกตเห็นระหว่างการทำละหมาดว่า นิ้วชี้แกว่งไกวตลอดเวลา จากนั้นอวัยวะอื่นๆก็เริ่มสั่นไปตามอาการของโรค แม้เป็นเช่นนี้! แต่อาลีก็คือ อาลี “เขามักมองโลกในแง่งามเสมอ”
แชมป์เปี้ยนแห่งมนุษยธรรม
“หลังอำลาวงการมวย เขาได้รับเชิญให้ไปบรรยายในมหาวิทยาลัยและสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ทั่วโลก ด้านสาธารณกุศลอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่ละแห่งที่ไปมีแฟนๆรอต้อนรับอย่างล้นหลาม
“บางคนมองมูฮัมหมัด อาลี ไม่ต่างจากซูเปอร์แมน ไม่แปลก จอห์นนี เวคกิน (Johnny Wakelin) แต่งเพลงชื่อ “Black Superman” ให้แก!
ขวัญใจเด็ก
“อย่าสิ้นหวังในชีวิต ตอนนี้เขาส่งมนุษย์ขึ้นไปบนอวกาศแล้ว หนูต้องเดินได้ในวันหนึ่ง และเต้นแบบนี้” เขาเอ่ยกับเด็ก ครั้งที่เข้าเยี่ยมเด็กพิการขาขาดสองข้าง พร้อมกับเต้นสลับขาไปมาเหมือนกำลังอยู่บนเวทีมวยขณะอุ้มเด็กน้อยไว้ในอ้อมแขน
“เมื่อถามว่าทำไมถึงเอ็นดูเด็กๆนัก อาลีตอบไว้อย่างกินใจว่า
“พวกเขาคือเทวดาและนางฟ้าที่ถูกส่งลงมาวิ่งเล่นบนโลกมนุษย์”
ยอดรองเท้า
“กลับมาเรื่องใกล้ตัวเราบ้าง จากสมยานามที่ว่า “โบยบินเหมือนผีเสื้อ ต่อยเจ็บเหมือนผึ้ง” (Float like a Butterfly, Sting Like a Bee) ณ จุดนี้ใครจะรู้นี่คือต้นเหตุที่ทำให้เขานำพู่มาติดที่รองเท้ามวยเป็น “รายแรก” ยามเต้นฟุตเวิร์กพู่จะสะบัดไปมา! เพิ่มลีลาความงดงามแก่การชกของตน
“มูฮัมหมัด อาลี ถือว่าเป็นนักมวยผู้เป็นตำนานในหลายด้าน นอกจากบุคลิกที่โดดเด่น กล้าคิด กล้าพูด หลายเรื่องที่อาลีแสดงความเห็นและแสดงออกทางสังคมล้วนแต่มีนัย มีความหมายทั้งสิ้น แม้วันนี้เขาจะจากไปพวกเรา SneakaVilla จึงขอยกคำพูดของเขามาพูดอีกสักครั้ง เพื่อให้ทุกคนได้จดจำอย่างเขาประสงค์
“ครั้งหนึ่งในช่วงรุ่งโรจน์สุดขีดบนผืนผ้าใบ พิธีกรเคยถามว่า
“คุณอยากให้ผู้คนบนโลกพูดถึงอย่างไรหลังจากเขาจากโลกนี้ไปแล้ว”
มุฮัมหมัด อาลี เจ้าสำบัดสำนวนก็ตอบด้วยประโยคตราตรึงผู้คนไปตลอดกาลว่า
“ผมอยากให้ผู้คนพูดถึงผมว่า มุฮัมหมัด อาลี! เป็นชายคนหนึ่งซึ่งเคยเอาความรัก 2-3 ถ้วย ความอดทน 1 ช้อนโต๊ะ น้ำใจ 1 ช้อนชา ความเมตตา 1 ไพน์ เสียงหัวเราะ 1 ควอตซ์ ความใส่ใจ 1 ชิ้น เอาความตั้งใจและความสุขมารวมเข้าไว้ด้วยกัน ก่อนจะเติมความศรัทธาลงไป เขย่าให้เข้ากัน แล้วแจกจ่ายให้ผู้คนไปตลอดช่วงที่เขามีชีวิตอยู่”
และแน่นอน “มุฮัมหมัด อาลี” มอบสิ่งนี้ให้ทุกคนที่เขาได้พบเจอ พวกเรา SneakaVilla ขอแสดงความเสียใจแก่การจากไป (RIP.)
Which proves I’m the king of the ring by far.
ซึ่งพิสูจน์ได้แล้วว่า ผมคือจ้าวแห่งสังเวียนนานเท่านาน
จากบทเพลง Black Superman