[spb_single_image image=”13053″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/1″ el_position=”first last”] [/spb_single_image] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”1/1″ el_position=”first last”]
ใครจะไปคาดคิดว่า เด็กชายที่ติดการ์ตูน วันๆเอาแต่วาดรูป และผลการเรียนไม่เอาไหนแม้แต่ในวิชาศิลปะคนหนึ่งจะเติบโตขึ้นมาเป็นศิลปินหน้าใหม่ฝีมือฉกาจที่สามารถขายงานศิลปะแนว baclofen without a prescription and cod delivery baclofen same day. order baclofen no script next day delivery how to buy baclofen uk baclofen 3 days delivery. street art ของตนเองแก่นักสะสมงานศิลปะชาวต่างชาติได้ ทั้งที่เจ้าตัวยังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยชั้นปีที่ 2 และหาเลี้ยงชีพได้โดยไม่ต้องรบกวนเงินจากทางบ้าน แต่กัส ไกรทรัพย์ บุญชู ผู้ใช้ชื่อในวงการศิลปะว่า “DREK” ทำได้ ทั้งยังพร้อมที่จะนำเสนอผลงานศิลปะในแบบเฉพาะตัวของเขาในนิทรรศการเดี่ยว “DREK: So Devilish” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มี.ค. ถึง 3 เม.ย. 2558 ที่ร้าน Sneaka Villa ระหว่างซอยสุขุมวิท 32 และ 34
หากคุณไม่เคยเห็นผลงานของ DREK หรือแม้กระทั่งได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของเขามาก่อน และสงสัยว่าเขาทำเรื่องน่าทึ่งเหล่านั้นได้อย่างไร ทางเดียวที่จะรู้ได้คือการอ่านบทสัมภาษณ์ข้างล่างนี้
[/fullwidth_text] [spb_single_image image=”13047″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/2″ el_position=”first”] [/spb_single_image] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”1/2″ el_position=”last”]
เริ่มหัดวาดรูปมาตั้งแต่เมื่อไหร่
ตั้งแต่ตอนเด็กๆเลย ตอนนั้นผมชอบดูการ์ตูนเรื่องโดราเอมอนมากครับ แต่เป็นเหมือน guilty pleasure (หัวเราะ) เพราะมันดูหน่อมแน้มไปหน่อย จำได้ว่าพยายามจะหัดวาดตัวละครในเรื่องโดราเอมอนให้เป็นทุกตัวเลย อยากเอามาวาดเป็นเรื่องของตัวเองได้ ก็เลยได้เริ่มฝึกจากตรงนั้น แล้วพอดีช่วงนั้นแม่ไม่ค่อยมีเวลาว่าง ตอน ป.1 เลยส่งผมไปเรียนพิเศษในโรงเรียนสอนศิลปะสำหรับเด็กครับ
ตัดสินใจมาเอาดีทางด้านนี้ตอนไหน
ตอน ม. 2 ครับ ตอนนั้นผมเห็นว่าเพื่อนๆฉลาดและเรียนเก่งกันหมด ต้องมีงานทำกันหมดแน่เลย ผมไม่เก่งอะไรสักอย่าง เรียนอะไรก็ตก เห็นว่ามีอย่างเดียวที่ชอบในชีวิตคือวาดรูป ก็เลยทำยังไงก็ได้ให้ศิลปะของผมมันหาเงินได้ โดยที่ไม่ต้องไปจำกัดว่าต้องเป็นศิลปิน กราฟิกดีไซเนอร์ คนเพนท์ เป็นอะไรก็ได้ครับที่เกี่ยวกับศิลปะ
ตอนที่ตัดสินใจแบบนั้น ทางบ้านว่าอย่างไร
โดนด่าสิ ครับ(หัวเราะ) ทางบ้านไม่ค่อยสนับสนุนเพราะพ่อผมเขาเป็นนักธุรกิจ ซึ่งกิจการเขาดีมาก เขาก็เลยบอกว่าเงินมันไม่ได้หาง่ายๆนะ ยิ่งถ้าไม่ได้ทำธุรกิจ ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ ควรจะทำงานอะไรที่มันแน่นอน มั่นคงกว่านี้ แล้วเขาก็บอกว่าจะไม่ให้เงินซื้อสีด้วย ถ้าอยากได้ ไปหาเอาเอง
แล้วหาทางออกอย่างไร
ผม ก็ไปขโมยอุปกรณ์วาดรูปจากโรงเรียนตั้งแต่ ม.ต้น ยันจบ ม.ปลาย เลยครับ(หัวเราะ) ช่วงหลังๆพ่อแม่เขาเห็นว่าห้ามอะไรไม่ได้แล้ว ก็เลยเริ่มปล่อยให้ผมทำอะไรตามใจ จากนั้นก็เริ่มทำงานเพนท์มาตั้งแต่ ม. 5 วาดแผ่นสเก็ตบอร์ดเก็บไว้ แต่ไม่กล้าโชว์อาจารย์ เพราะเราคิดว่าศิลปะมันจะไปอยู่ไหนก็ได้ เสื้อยืดก็ได้ แผ่นสเก็ตก็ได้ แต่ที่โรงเรียนเขาสอนว่างานศิลปะต้องไปอยู่ใน gallery บนกำแพงขาว เป็น contemporary art พอถึงตอนจะจบเขาก็ให้ทำ gallery เล็กๆ คล้ายๆธีสิสจบ แล้วผมไม่มีงานส่ง มัวแต่เอาเวลาเรียนไปนั่งวาดแผ่นสเก็ตของผมไปเรื่อย พอถึงเวลาเลยเอางานพวกนี้มาแปะ มาใส่กรอบบ้างจนท่วม gallery เลย ผลคือ เกรดออกมาแทบจะดีที่สุดของรุ่นเลยครับ ผมเลยรู้สึกว่า เฮ้ย! แบบนี้มีหวังในชีวิตแล้ว จากนั้นก็สมัครเข้าไปเรียนที่คณะนิเทศศาสตร์ อินเตอร์ ม.รังสิต ทำงานและขายงานศิลปะผ่านทางเอเจนซี่ Souled Out Studio ทำมาจนถึงตอนนี้ก็ 1 ปีแล้ว ก่อนหน้านั้นเคยขายงานกราฟิคแนว illustration อย่างเดียว แต่ตอนนี้เน้นพวกภาพเขียนจากสีอะครีลิคและ mixed media
[/fullwidth_text] [spb_single_image image=”13050″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/1″ el_position=”first last”] [/spb_single_image] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”1/1″ el_position=”first last”]
มาร่วมงานกับ Souled Out Studio ได้อย่างไร
ผมรู้จักพวกเขามาตั้งแต่ ม.3 แล้วครับ ผมได้ดูหนังเกี่ยวกับ graffiti เรื่องหนึ่งสมัยเรียนศิลปะตอนมัธยม ชื่อว่า Exit Through the Gift Shop ซึ่งเป็นหนังขึ้นหึ้งที่มีอิทธิพลในด้าน street art มากที่สุดเลยครับ เป็นแรงบันดาลใจให้พวกรุ่นใหม่เยอะ พอผมได้ดูก็ชอบ และตอนนั้นก็ได้รู้จักกับพี่ไผ่ A.M.P. จากการที่บังเอิญได้ไปช่วยเขาขายของในร้านที่จตุจักรให้ลูกค้าชาวต่างชาติ พอได้คุยกับพี่เขาเกี่ยวกับศิลปินที่อยู่ในหนังเรื่องนี้ เขาก็บอกว่าเขารู้จักอยู่คนหนึ่ง เขาเลยให้พวก profile พวกเว็บไซต์มาให้ดู ผมก็เลยตามงานของ Souled Out มาตลอดครับ และผมได้ติดต่อกับศิลปินชาวอังกฤษชื่อ Beejoir ซึ่งมีงานชิ้นที่ดังมากของเขาชื่อว่า LV Child ผมเลยไป follow IG เขา ช่วงนั้นกำลังเรียน ม.4-ม.5 พอขึ้น ม. 6 ผมเพนท์รูปลงสเก็ตบอร์ดแล้วโพสต์รูปลง IG ของผม เขาก็มากดไลค์ แล้วเขาก็เริ่ม follow ผมเลยดีใจมาก ไม่กี่วันต่อมาเขาก็ไปคอมเมนต์ในรูปเก่าๆของผมว่าอยากได้งาน อยากให้เพนท์งานให้จะได้เอางานไปขาย หลังจากนั้นเขามีโปรเจ็คหนึ่งที่เขาต้องการผู้ช่วยก็เลยเข้าไปช่วยเขาเดินเรื่องให้ เพราะผมพูดอังกฤษได้และทำงานศิลปะด้วย คุยกันรู้เรื่อง ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นครับ ส่วนวิธีขายงาน ผมก็แค่เอางานที่ทำเสร็จไปฝากไว้ที่นั่นเลยครับ พอมีลูกค้าสนใจเขาก็จะมาบอกเรา ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นต่างชาติ ซึ่งตอนนี้เริ่มมีชาวเอเชีย เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น มาสะสมงานแล้ว แต่ยังไม่มีคนไทยนะครับ
ทำไมถึงเลือกเรียนต่อคณะนิเทศศาสตร์ ทั้งๆที่ ม.ปลายเรียนศิลปะมา
เพราะพี่ไผ่ แนะนำผมมาว่าเรียนนิเทศฯ ม.รังสิต แล้วมีเวลาว่างมาเพนท์งานเยอะครับ (หัวเราะ) เขาก็จบมาจากที่นั่น ส่วนที่เรียนอินเตอร์นี่จริงๆเป็นเพราะผมถนัดภาษาอังกฤษกว่าไทยเนื่องจากเรียนอินเตอร์มาตั้งแต่ ป.1 ครับ ซึ่งจริงๆพ่อกับแม่เขาก็เถียงกันอยู่นานว่าจะส่งเรียนอินเตอร์ทำไม ค่าเทอมก็แพง แต่สุดท้ายก็เชื่อแม่ที่อยากให้ผมเรียน แม่เขารู้ว่าโลกมันจะเปลี่ยน ภาษาอังกฤษมันจะสำคัญมาก แล้วผมก็ได้ใช้จริงๆ ถ้าผมคุยอังกฤษไม่ได้ ผมก็ไม่ได้รู้จักกับพี่ไผ่ ไม่ได้รู้จักกับ Souled Out และเขาก็คงไม่จ้างเราไปทำงานด้วย ผมว่าภาษาถ้าศิลปินไทยรู้อังกฤษมันจะดีมากนะ ติดต่อกับลูกค้าชาวต่างชาติเองได้ ไม่ต้องผ่านเอเยนต์ก็ยังได้ แต่จริงๆสิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ เราสามารถแชร์ความคิดเห็นกับศิลปินต่างชาติได้ ผมเองก็ชอบไปคอมเมนต์กับศิลปินดังๆ บางทีเขาเห็นว่าเราพิมพ์อังกฤษดี มีมุขแบบฝรั่ง เขาก็อาจจะฟลุคพิมพ์ตอบเรามาใน IG ทั้งๆที่มี follower 2-3 หมื่น
[/fullwidth_text] [spb_single_image image=”13066″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/2″ el_position=”first”] [/spb_single_image] [spb_single_image image=”13057″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/2″ el_position=”last”] [/spb_single_image] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”1/1″ el_position=”first last”]
ชื่อ DREK มีความหมายว่าอย่างไร
เอาจริงๆมันก็ไม่ใช่ชื่อที่มีความหมายอะไรเลย แค่นั่งคิดไปเรื่อยๆทั้งวันว่าจะเอาชื่ออะไรดี ก็เริ่มจากชื่อ DRINK ก่อน ประมาณว่าเพิ่งหัดกินเหล้า แต่มันดูเกร่อไปหน่อย แล้วลองเอา N ออก กลายเป็น DRIK ก็ยังฟังดูแปลกๆ เลยลองเปลี่ยนสระไปเรื่อยๆ จนเป็น DREK ที่มันฟังดูดีสุด สุดท้ายก็เลย อ่ะ DREK แล้วกัน(หัวเราะ)
ทำไมถึงใช้สโลแกนว่า “So Devilish”
“So Devilish” มาจากชื่อเพลงของวงดูโอแนว hip hop ชื่อ The Underachievers ครับ ผมชอบเพลงนี้มาก ก็เลยเอาชื่อนี้มาใช้ แล้วพอดีว่าช่วงที่ผ่านมาผมเพนท์คาแร็คเตอร์ปีศาจไว้เยอะมาก จากที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีคาแร็คเตอร์ตัวไหนเป็นหลัก ซึ่งไอเดียมาจาก “ความโลภ” ที่มันแฝงอยู่ในตัวทุกคนน่ะครับ
[/fullwidth_text] [spb_single_image image=”13060″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/1″ el_position=”first last”] [/spb_single_image] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”1/1″ el_position=”first last”]
คอนเซ็ปต์งานของ DREK เป็นอย่างไร ceftin ear ringing buy ceftin
ในงานทุกชิ้นของผมก็แค่เอาตัวปีศาจที่ว่านี้มาเล่นกับมันครับ แค่ดัดแปลงนิดๆหน่อยๆ ไปเรื่อยๆครับ สำหรับผมงานศิลปะมันไม่ต้องมีความหมายอะไรก็ได้ แค่ผมทำแล้วคิดว่ามันสวย สนุกกับมัน แค่นั้นก็พอแล้ว
เวลาทำงานแต่ละชิ้นมีการวางแผนอย่างไร
แต่ก่อนเคยวางแผนเยอะ งานบางชิ้นก็ปิ๊ง บางชิ้นคิดตั้งนานก็ไม่ออกครับ(หัวเราะ) จนศิลปินที่ชื่อพี่บอล muebon เขามาบอกว่าบางทีเราคิดเยอะไปก็ไม่ดี ควรปล่อยให้ใจเราไปกับงาน ถ้าเราไปคุมมันมากๆตั้งแต่ต้นจนเสร็จ พอมันออกมาไม่เหมือนกับที่คิดไว้ เราก็มักจะคิดว่ามันไม่ดี แต่ถ้าเราแค่ร่างโครงมันไว้ ไม่ต้องไปคิดถึงสี รายละเอียด ว่าต้องทำอะไรมาก พอเราทำจนเสร็จแล้วเราจะพอใจกับมันมากกว่า
[/fullwidth_text] [spb_single_image image=”13051″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/1″ el_position=”first last”] [/spb_single_image] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”1/1″ el_position=”first last”]
เทคนิคที่ใช้ในงานนิทรรศการคราวนี้มีอะไรบ้าง
หลักๆจะเป็นสีอะครีลิค ครับ ซึ่ง Souled Out เขาสนับสนุนผมดีมาก ทั้งเรื่องการเพนท์ การขายงาน การให้งานมาทำ จ่ายเงิน เขาให้สปอนเซอร์อุปกรณ์ เช่น พู่กัน สีอะครีลิค กับผ้าใบหมดเลยครับ แล้วสีอะครีลิคมันก็อยู่นานอยู่แล้ว ไม่ต้องให้ใหม่บ่อยๆ แค่ให้ผ้าใบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนอย่างอื่นมีตั้งแต่สีสเปรย์ หมึกจีน ปากกา marker สีทาบ้าน แล้วก็แผ่นทองแปะหลังพระเลยครับ
ในบรรดางานที่จะจัดแสดง ชอบชิ้นไหนที่สุด
งานที่ชอบที่สุดจะเป็นชิ้นเล็กๆครับ เป็นชุดชื่อว่า Wasted Thoughts ซึ่งผมจะปล่อยใจให้มันล่องลอยไปเรื่อยๆในตอนทำ ไม่ได้ไปวางแผนอะไรมากเหมือนงานชิ้นใหญ่ๆ ใช้เทคนิค mixed media ผสมกันไป เช่น ใช้สีทาบ้านทาแบ็คกราวด์ ได้พื้นผิวที่แปลกดี ใช้หมึกจีนตัดเส้นบนแผ่นทองที่แปะไว้ ทำนองนี้ครับ
[/fullwidth_text] [spb_single_image image=”13061″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/2″ el_position=”first”] [/spb_single_image] [spb_single_image image=”13056″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/2″ el_position=”last”] [/spb_single_image] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”1/1″ el_position=”first last”]
ทดลองมาเยอะขนาดนี้ มีเทคนิคที่อยากลอง แต่ยังไม่เคยลองไหม
อยากทำรูปปั้นครับ เพราะมันดูมีพลังดี ผมว่าการเอารูปเพนท์ไปทำรูปปั้น หรือรูปปั้นไปทำรูปเพนท์มันเหมือนเปลี่ยนมุมมองไปเลย แต่ปั้นไม่เป็นนะครับ ต้องไปจ้างเขาทำ(หัวเราะ) สุดท้ายแล้วก็อยากเอาเวลาไปเพนท์งานมากกว่าครับ เพราะเป็นงานที่ผมทำได้ดีที่สุด
เคยไอเดียตันไหม แล้วแก้ไขอย่างไร
เคยครับ ผมก็จะหยุดแล้วไปทำงานชิ้นอื่นก่อน จนกว่าจะมีอารมณ์กลับมาทำต่อ หรือจนกว่าอยากจะแก้มันครับ ปกติแล้วผมจะไม่ใช่คนประเภทที่ทำงานโฟกัสให้เสร็จไปทีละชิ้น เพราะมันหงุดหงิดเปล่าๆ อย่างงานคราวนี้ผมจะขึ้นงานไว้ก่อนเลยประมาณ 10 ชิ้น แล้วมาเขียนไว้ข้างๆผ้าใบว่าแต่ละชิ้นไอเดียประมาณไหน แล้วด้นสดไปเรื่อยๆ อาจจะมีจดโน้ตแล้วไปรีเสิร์ชเพิ่มว่าควรทำอะไร ประมาณไหนดี แล้วก็ค่อยมาต่อจนเสร็จ ก็เลยกลายเป็นสไตล์การทำงานของผมไป
[/fullwidth_text] [spb_single_image image=”13063″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/2″ el_position=”first”] [/spb_single_image] [spb_single_image image=”13062″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/2″ el_position=”last”] [/spb_single_image] [spb_single_image image=”13054″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/1″ el_position=”first last”] [/spb_single_image] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”1/1″ el_position=”first last”]
ได้รับอิทธิพลจากศิลปินคนไหนบ้าง
ของเมืองนอกจะเป็น Mike Giant ซึ่งงานของเขาทำให้ผมรู้ว่าการมีแค่หมึกดำก็ทำให้รูปสวย ดูมีมิติได้ ถ้าของไทยก็พี่ไผ่นี่แหละครับ เขาเป็นคนสอนให้ผมรู้จักกับ street art และสอนพื้นฐาน กฎเกณฑ์ต่างๆของศิลปะแขนงนี้ รวมถึงเรียนรู้สไตล์ของศิลปินดังทั้งหลายที่ต่างกันให้ผมด้วย ก็เลยกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมได้รู้จักกับ street culture เลยครับ นอกจากนั้นผมก็ชอบพวก fine art สาย minimalist ชอบงานคลีนๆ แม้ผมจะวาดรูปแนวอย่างที่เห็น เอาจริงๆส่วนตัวผมไม่คิดว่าตัวเองเป็น street artist เลย ผมก็ชอบการเขียน การเพนท์บนถนนนะ แต่รู้สึกว่าถ้าจะเรียกตัวเองว่าเป็น street artist ได้เต็มปากเต็มคำ ผมต้องทำงานแบบนั้นให้มากกว่านี้ แล้วผมก็รักการเพนท์ผ้าใบมากกว่าไปพ่นตามถนนอยู่ดี แต่ผมไม่ได้จะแบ่งแยกประเภทของ street art หรอกนะครับ มันแค่เป็นความคิดของผมคนเดียว ถ้าจะเรียกผมว่าเป็นอะไร ผมอยากเป็นแค่ artist เฉยๆ แค่นั้นเอง
จากทีแรกที่พ่อไม่ยอมรับความฝันของเรา ตอนนี้เขามีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง
ตอนนี้เขายอมรับผมแล้วครับ เพราะผมก็ไม่ต้องขอเงินค่าใช้จ่ายต่างๆจากเขามาปีหนึ่งแล้วครับ ยกเว้นค่าเล่าเรียนที่ผมเบิก กยศ. ครึ่งหนึ่ง และแม่ยังช่วยออกให้อยู่บ้าง ตอนนี้ยังอาศัยอยู่กับที่บ้านแต่ว่าเราแยกกันใช้เงินใครเงินมันแบบ American Style ครับ (หัวเราะ)
[/fullwidth_text] [spb_single_image image=”13055″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/1″ el_position=”first last”] [/spb_single_image] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”1/1″ el_position=”first last”]
มีแผนจะทำงานอะไรต่อจากนี้อีกไหม
คงต้องดูการตอบรับจากงานนี้ก่อนนะครับ(หัวเราะ) แต่ส่วนตัวผมก็อยากจะทำงาน print กับ Souled Out prednisone price cvs grudzien 7th, 2014 buy prednisolone , or of the diagnosis of and of a meniscus can promote described below retail cost of prednisolone , เพราะเป็นสิ่งที่ผมฝันมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ ทีมนี้มีศิลปินที่ผมชอบอย่าง Mau Mau, Beejoir, Lucas Price, พี่ไผ่ A.M.P., พี่บอล muebon, พี่อเล็กซ์ Alex Face ส่วนอนาคตของผมก็อยากจะเพนท์แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆครับ แต่พอเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นมันก็คงต่างกันไปอยู่ดีแหละครับ อีก 10 ปีข้างหน้าผมอาจจะทำภาพเหมือนสีน้ำมันแบบ classic fine art ก็ได้นะ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้มันเป็นพื้นฐานของการ์ตูนอยู่ครับ เพราะผมไม่มีวันลืมรากว่าผมเริ่มมาจากความหลงใหลในการ์ตูนล้วนๆเลย ทุกวันนี้ก็ยังบ้าการ์ตูนอยู่ (หัวเราะ)
—————————————-
คงได้เห็นฝีมือ และรู้จักตัวตนของ DREK กันไปบ้างไม่มากก็น้อย ถ้าหากใครอยากทำความรู้จักเขาให้มากกว่านี้ อย่าพลาดงานนิทรรศการ DREK: So Devilish ในวันเปิดงานที่ 27 มีนาคมนี้ ที่ร้าน Sneaka Villa เพราะนอกจากจะได้เห็นผลงานของจริงและได้เจอเจ้าของผลงานตัวจริงแล้ว งานนี้ยังมีเครื่องดื่มฟรีจาก Hennessy ให้ผู้เข้าร่วมงานทุกคนอีกด้วย แล้วเจอกัน!
ติดตามผลงานของ DREK ได้ที่
IG: @drekbkk
FB: https://www.facebook.com/drekbkk buying dapoxetine 90 mg pills safely no prescription dapoxetine 90 mg pills. cheapest dapoxetine no prescription discounts can you buy dapoxetine 90 mg
E-mail: drekbkk@hotmail.com zoloft pfizer price zoloft price generic zoloft online
www.souledoutstudios.com
[/fullwidth_text]