เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับการใช้การถ่ายภาพเพื่อบันทึกเรื่องราว หรือเหตุการณ์สำคัญต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขหรือทุกข์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องปกติทั่วไปที่ทุกคนเคยทำอย่างแน่นอน และแน่นอนว่าช่างภาพส่วนใหญ่ก็จะมุ่งเน้นและศึกษาเกี่ยวกับการถ่ายภาพแนว portrait หรือภาพบุคคลเพื่อที่พัฒนาฝีมือ และก้าวหน้าในสายงานที่ตนต้องการ แต่ก็มีช่างภาพอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้สนใจที่จะถ่ายเพียงภาพบุคคลหรือสิ่งมีชีวิตเพียงอย่างเดียว เพราะพวกเขากลับให้ความสนใจกับวิวทิวทัศน์ สถาปัตยกรรม หรือสิ่งปลูกสร้างต่างๆ และพยายามถ่ายทอดความงดงามของสิ่งเหล่านั้นออกมาในแบบของพวกเขาเอง
เช่นเดียวกับช่างภาพที่เราจะมาพูดคุยกับเขาในวันนี้อย่าง จักรินทร์ มูลมานัส หรือ ติม ช่างภาพหนุ่มวัย 24 ปี ที่หันมาสนใจถ่ายภาพของสิ่งปลูกสร้าง และเมืองที่ดูแออัดวุ่นวายผ่านมุมมองที่มีเอกลักษณ์แตกต่างออกไป ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายจากตึกสูงระฟ้า หรือสิ่งปลูกสร้างรกร้างที่ไม่มีใครสนใจ ซึ่งเขาได้พยายามในการหาสถานที่และมุมมองใหม่ๆ เพื่อที่จะนำเสนอภาพความงดงามของสถานที่ธรรมดาที่หลายคนอาจจะเคยเดินผ่าน หรือเคยพบเห็นแต่ไม่เคยสังเกตถึงความสวยงามของสถานที่เหล่านั้น และนี่เป็นเหตุผลที่เราอยากจะให้คุณรู้ถึงเรื่องราวของเขามากกว่านี้
จุดเริ่มต้นการถ่ายภาพ
เริ่มจากช่วงเรียนมหาวิทยาลัยซึ่งเราไม่รู้ตัวเองว่าเราสนใจอะไรจริงๆ เลยเลือกเรียนนิเทศศาสตร์เพื่อที่จะหลีกหนีวิชาการคำนวนต่างๆ ที่เราไม่ชอบ ซึ่งทำให้เราได้มีโอกาสเรียนการถ่ายภาพขั้นพื้นฐานด้วยฟิล์มเป็นรุ่นสุดท้ายของ ม.กรุงเทพ แต่ตอนนั้นเราไม่ได้สนใจจริงจังก็แค่เรียนไปเรื่อยๆ เรียนบ้างเล่นบ้างตามประสา เวลาอาจารย์สั่งงานก็ยืมกล้องเพื่อนมาถ่ายซึ่งก็ถ่ายออกมาเสียบ้างใช้ไม่ได้บ้าง ทำให้บางครั้งเราต้องนำภาพจากฟิล์มเพื่อนมาส่งอาจารย์ นั่นเป็นเรื่องที่เสียใจมากจนถึงทุกวันนี้ เพราะเราเสียโอกาสที่ดีมากในการเริ่มต้นถ่ายภาพแบบจริงจัง
สาเหตุที่หันมาถ่ายภาพแบบจริงจัง
เราเป็นคนที่ชอบถ่ายรูปอัพ Instagram อยู่แล้ว โดยใช้โทรศัพท์มือถือเหมือนวัยรุ่นทั่วไป แต่เราได้มีโอกาสเป็นช่างภาพถ่ายรูปให้กิจกรรมรับน้องตอนปี 3 เพราะเพื่อนบอกว่าชอบการถ่ายภาพของเราที่เห็นใน Instagram ซึ่งเราก็ปฏิเสธไปว่าเราถ่ายรูปโดยใช้กล้อง DSLR ไม่เป็น แต่เพื่อนเขาก็ช่วยสอนรวมถึงให้ยืมกล้องมาใช้ นั่นเป็นครั้งแรกที่เราได้ถ่ายภาพแบบจริงจัง และเป็นผลให้เราเริ่มชอบการถ่ายภาพจนถึงทุกวันนี้ เพราะหลังจากที่เราอัพโหลดรูปก็มีน้องๆเข้ามาสนใจและคอมเม้นท์มากมาย เราจึงเข้าใจว่าการถ่ายภาพคือการเก็บความทรงจำและความรู้สึกของผู้คนในช่วงเวลานั้น อย่างกิจกรรมรับน้องที่เราถ่ายก็มีหลากหลายอารมณ์ไม่ว่าจะสนุก หรือเศร้าซึ่งแต่ละคนก็ไม่ได้มีอารมณ์แบบนี้ทุกวัน หลังจากวันนั้นผมจึงยืมเงินแม่มาซื้อกล้องเพื่อหัดถ่ายภาพอย่างจริงจัง
สไตล์การถ่ายภาพ
หลังจากถ่ายมาได้สัก 3-4 ปี ก็เริ่มรู้ตัวว่าเราชอบถ่ายภาพเมืองและสถาปัตยกรรมมากที่สุด เพราะทำให้เราได้เดินทางไปในสถานที่ต่างๆ และได้ถ่ายทอดความงดงามของแต่ละสถานที่ ซึ่งพอถ่ายไปเรื่อยๆเริ่มสนุกและเริ่มมีกลุ่มที่ชอบถ่ายภาพแนวเดียวกับเราทำให้เราได้ออกไปถ่ายตามที่ต่างๆมากขึ้น อย่างเช่นตึกสูงๆ หรือตึกร้าง
ความสนุกของการถ่ายภาพแนวนี้
ความสนุกของผมคือ ระหว่างการเดินทางเพื่อที่จะไปถ่ายภาพในสถานที่ต่างๆ ซึ่งส่วนมากผมจะใช้วิธีการด้วยรถเมล์ รถไฟฟ้า หรือเรือด่วนเจ้าพระยา ถ้าเราเจอสถานที่ที่น่าสนใจผมก็จะลงไปตรงนั้นเลยเพื่อถ่ายรูป ทำให้หลายครั้งที่เราไม่ได้มีเป้าหมายแน่ชัดว่าจะไปที่ไหนแล้วเราก็เดินสุ่มไปเรื่อยๆ และยังมีโอกาสได้คุยกับผู้คนหลากหลายไม่ว่าจะเป็นคนเร่ร่อนที่อยู่บนตึกร้างสูงๆ หรือตามที่ต่างๆ ดังนั้นความสนุกจึงไม่ใช่เพียงแค่ภาพที่่ถ่ายออกมา แต่มันรวมถึงเรื่องราวในส่วนนี้ด้วย
เทคนิคในการถ่ายภาพ
ไม่ได้มีอะไรที่มันซับซ้อนมากมาย อย่างเราชอบภาพที่ระยะกว้างเพื่อเก็บรายละเอียดต่างๆก็จะเลือกใช้เลนส์ wide เป็นส่วนใหญ่ และการเลือกสถานที่อย่างตึกสูงหรือตึกร้างที่คนไม่ค่อยให้ความสนใจ
การถ่ายภาพของเราเน้นที่กระบวนการไหนที่สุด
จริงๆแล้วก็ตั้งแต่การเลือกสถานที่ถ่าย ต้องศึกษามาก่อนว่าสถานที่นั้นเป็นอย่างไร ต้องเตรียมตัวอย่างไรหรือมีอุปกรณ์อะไรบ้าง เพราะอย่างที่บอกว่าความสำคัญอาจจะไม่ใช่เพียงรูปที่เราตั้งใจถ่ายเท่านั้น แต่อาจจะเป็นความประทับใจระหว่างทางและสิ่งรอบข้างที่เราถ่ายเก็บไว้ด้วย
ช่างภาพในดวงใจ
คนแรกคือ Trashhand เพราะเขาถ่ายภาพสไตล์เดียวกับเรา แต่มุมมองของเขามันมีเสน่ห์มากและทำให้เราหยุดดูไม่ได้ ส่วนอีกคนคือพี่ตั้ม Rockkhound เปรียบเหมือนแรงบันดาลใจของเรา
นอกการถ่ายภาพตึกแล้วถ่ายแนวไหนอีกบ้าง
ผมไม่ได้ปิดกั้นตัวเองว่าจะต้องถ่ายภาพในเมืองเท่านั้น มีบางครั้งเหมือนกันที่เราหมดไฟจากการถ่ายภาพแนวเดิม เราก็จะชวนพรรคพวกออกไปถ่ายภาพธรรมชาติตามต่างจังหวัด เพราะเราคิดเสมอว่าการถ่ายภาพทุกแนวสามารถสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆ เพื่อนำมาใช้กับงานของเราได้
อุปกรณ์ที่ใช้
กล้อง Canon 5D mark III และเลนส์ Sigma 20 F1.4 อีกตัวเป็นเลนส์ Canon 50 F1.4 เป็นเซ็ตหลักที่เรามักจะพกติดตัวตลอด
สถานที่ประทับใจที่สุดที่เคยไปถ่าย
คงเป็นประเทศฮ่องกงครับ เพราะเป็นประเทศที่บ้านเมืองเขาสวย รวมถึงมีตึกสูงอยู่แทบทุกที่ แถมตอนที่เราไปยังเป็นช่วงที่ฝนตกและมีท้องฟ้ามืดครึ้ม ซึ่งดูเป็นเมืองที่มีเสน่ห์สำหรับเรามาก
ประเทศในฝันสำหรับการถ่ายภาพ
ประเทศไอซ์แลนด์ช่วงหน้าหนาว เพราะชอบบรรยากาศที่หิมะปกคลุมทุกที่จนเป็นสีขาวสุดลูกหูลูกตา และช่วงหน้าหนาวจะเป็นเวลาทีมีถ้ำน้ำแข็งซึ่งเป็นครั้งเดียวในแต่ละปี แต่คงยังไม่ได้เร็วๆนี้ เพราะผมอยากพัฒนาฝีมือให้ได้มากกว่านี้เพื่อที่จะได้ภาพที่ดีที่สุด ส่วนอีกที่คือนิวยอร์คประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นศูนย์รวมของวัฒนธรรมต่างๆที่เราชื่นชอบ
ภาพที่ประทับใจที่สุด
ภาพนี้ผมถ่ายที่ถ้ำเขาหลวงกับพี่ตั้ม ถ้ำนี้จะมีแสงรอดลงมาสวยมาก ซึ่งตอนที่ผมไปถ่ายภาพแรกคือเวลาบ่ายโมงและคิดว่านี่คือแสงที่สวยสุดแล้ว แต่พอเริ่มเย็นแสงที่สาดเข้ามากลับเริ่มสวยขึ้นอีกเรื่อยๆ ผมเลยรอเวลาเพื่อถ่ายภาพที่ดีที่สุดจนได้ภาพนี้มาตอนบ่าย 3 โมง ซึ่งต้องรอกว่า 2 ชั่วโมงกว่าจะได้ภาพนี้มา
อยากให้พูดถึงมุมมองของเราในฐานะที่เป็นช่างภาพที่เติบโตมาในยุคของ Instagram
Instagram ทำให้โลกของผมเปลี่ยนไปจากเดิม เพราะทำให้ผมได้เห็นงานของช่างภาพต่างประเทศหลายคนซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ผมตั้งใจถ่ายภาพมากขึ้น คิดก่อนถ่ายมากขึ้นเพื่อที่จะถ่ายภาพให้ดีเหมือนพวกเขาเหล่านั้น และที่สำคัญ Instagram เปรียบเหมือนกับพื้นที่แสดงผลงานของเราให้ผู้อื่นได้เห็น และสามารถรับรู้ถึงไลฟ์สไตล์ของเราได้
เป้าหมายอนาคต
ผมยังไม่ได้ตั้งเป้าหมายในระยะยาวว่าอยากไปสิ้นสุดที่ตรงไหน ตอนนี้แค่อยากพัฒนาฝีมือขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ใครก็ตามที่เห็นภาพถ่ายของเราแล้วรู้ทันทีว่าภาพนั้นเราคือผู้ถ่าย
การถ่ายภาพให้อะไรกับเรา
จริงๆแล้วก็ให้อะไรหลายอย่าง ทั้งการได้ไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ ได้เจอสังคมและเพื่อนใหม่ๆ และที่สำคัญคือทำให้เรามีรายได้ทุกวันนี้
อยากแนะนำคนที่อยากเริ่มต้นหัดถ่ายภาพอย่างไร
ถ้าอยากถ่ายก็เริ่มถ่ายเลยตั้งแต่วันนี้ เริ่มถ่ายจากสิ่งใกล้ตัวหรือสถานที่ใกล้ๆอย่างแถวบ้านโดยใช้กล้องมือถือก่อนก็ได้ เพราะถ้าเราไม่พยายามหรือลองทำ เราจะไม่มีทางรู้ว่าเราจะสามารถทำมันได้ดีเพียงใด
จักรินทร์ มูลมานัส
Instagram : @Jkrnn
Fanpage : https://www.facebook.com/jkrnn/