[fullwidth_text alt_background=”none” width=”1/1″ el_position=”first last”]
งาน “mural” หรือที่บ้านเราเรียกกันว่า “จิตรกรรมฝาผนัง” นั้นคืองานศิลปะที่เกิดจากการเพนท์สีบนพื้นระนาบขนาดใหญ่ เช่น ผนัง กำแพง เพดาน ด้วยขนาดของงานประเภทนี้ มันจึงเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง ซึ่งในปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภาพวาดเชิงศาสนาในโบสถ์ วัด พระราชวัง หรือสถานที่สำคัญอีกต่อไป แต่มีความใกล้ชิดกับคนทั่วไปมากขึ้น เช่น ร้านอาหาร ผับ ห้าง จนถึงตามผนังและกำแพงทั่วไป และมีคอนเซ็ปต์ที่จับต้องได้มากขึ้น กลายเป็นส่วนหนึ่งของกระแส street art ในที่สุด ซึ่งผลงาน mural ของ “Jorra” หรือ บอล สุรชาติ ธีระวงษ์ไพโรจน์ นั้นโดดเด่นและเป็นที่ต้องการของใครหลายคนจนการเจียดเวลามาให้สัมภาษณ์เราเป็นเรื่องยาก สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับเขาไม่ได้มีเพียงแค่ฝีมือ แต่ยังรวมไปถึงความทุ่มเท และทัศนคติดีๆ ที่เขามีต่ออาชีพนี้อีกด้วย หากได้อ่านบทสัมภาษณ์ข้างล่างนี้คุณจะพบว่าสิ่งที่เรากล่าวไปไม่เกินความจริงเลย
[/fullwidth_text] [spb_single_image image=”14153″ image_size=”full” frame=”noframe” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/1″ el_position=”first last”] [/spb_single_image] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”1/1″ el_position=”first last”]
เส้นทางก่อนจะมาเป็น Jorra
เริ่มจากจุดเปลี่ยนของชีวิต คือไปเรียนที่สาธิตประสานมิตรตอน ม.ปลาย เพื่อนไม่คบ ทุกวันจะมีเรื่องชกต่อย เป็นเพราะผมเหมือนเป็นเด็กบ้านๆ แต่ต้องเข้าไปเรียนในเมือง เข้ากับเขาไม่ได้ และอาจจะเป็นเพราะหน้าตาดูกวนๆ แก่นๆ แล้วพวกรุ่นพี่เขามีวัฒนธรรมตบรุ่นน้องโชว์ ผมก็ไม่ยอมไง ทำไปทำมาชักไม่ไหว พอดีมีลูกพี่ลูกน้องรุ่นราวคราวเดียวกันมาเยี่ยมจากเยอรมนี เขาก็ชวนไปอยู่ด้วยกันที่นั่น เลยบอกแม่ว่าจะลาออก ตอนนั้นไปเรียนภาษาเยอรมันที่เกอเธ่ แต่ดันสอบไม่ผ่าน แล้วก็ขอวีซ่าไม่ผ่าน แต่แม่เขาไม่ได้แจ้งลาออก แค่ดรอปเรียนไว้ แล้วก็ให้ผมเลือกระหว่างเรียนที่เดิม เป็นเด็กซ้ำชั้น กับไปเรียนที่พณิชยการบางนา ผมก็เลยยอมไปเรียนที่เดิม แล้วต้องกลายไปเป็นรุ่นน้องของคนที่เคยมาแกล้งอีก ต้องหาเพื่อนใหม่อีก เครียดกว่าเดิม แต่ก็ผ่านมันมาได้เพราะว่าตอนนั้นผมยอมเปิดโต๊ะบอลเพื่อให้มีเพื่อน หลังจากนั้นเพื่อนก็เลยเยอะ จนในที่สุดก็เรียนจบ ม.6 ซึ่งนี่เป็นประสบการณ์ที่สอนให้ผมเป็นคนแอคทีฟได้ถึงทุกวันนี้ คือถ้าไม่รวยก็ต้องทำงานเพื่อให้คนอื่นยอมรับ แล้วต่อมาก็ไปเข้า ปวส. ที่วิทยาลัยช่างศิลป์ สาขาจิตรกรรม และต่อปริญญาตรีอีก 2 ปี ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์
จากนั้นก็ไปทำงานร้านวาดรูปที่พัทยา จำได้ว่าขอเงินแม่ไป 300 บาท พอไปถึงที่นั่น ทำงานวันแรกได้ 2,000 บาท ก็ดีใจ อยู่ไปเรื่อยๆ ได้เงินเป็นหมื่น แต่ทำได้ประมาณ 5 เดือนก็โดนโกงเพราะว่าผมวาดเร็วไปหน่อย เขาจ่ายเงินให้ไม่ทัน ก็เลยต้องกลับ ต่อมาก็ไปทำงานที่ห้างเอ็มโพเรียม เป็น VMD ดูเลเรื่องการตกแต่งพื้นที่ตามเทศกาล อยู่ได้เกือบปี เพื่อนชวนไปทำโปรดักชั่นดีไซน์ในหนังของสหมงคลฟิล์ม คอยออกแบบ key visual ก็คือสเก็ตช์ภาพที่ผู้กำกับเขาอยากจะได้ ทำอยู่ 2 ปีกว่า จู่ๆ เพื่อนมาบอกว่าช่างภาพลาออก ตอนนั้นพอดีผมชอบถ่ายรูปโลโม่ คิดแบบเด็กๆ ว่าอยากลองเป็นช่างภาพบ้าง ก็เลยไปยืมกล้องพี่ที่สตูดิโอนิวเบรนเพื่อเอาไปถ่ายพอร์ทเพื่อสมัครงาน พอถึงวันที่ทำพอร์ทเสร็จ เอากล้องไปคืน ได้เจอกับพี่หมู เจ้าของที่นั่น แกก็ของานมาดู แล้วแกก็ชวนให้ไปทำงานรีทัช ให้ใช้โปรแกรม Photoshop ทำงาน โดยให้ไปเรียนกับทีมงานรีทัชที่นั่น ผมก็เลยได้ทักษะตรงนั้นมาจากที่เมื่อก่อนวาดมืออย่างเดียว ทำอยู่ 8 เดือน เงินก็โอเค แต่มันทรมานมาก ระหว่างนั้นในวันหยุดได้นั่งกินเหล้ากับรุ่นพี่ที่ช่างศิลป์ เห็นเขาขายรูปกัน แล้วพี่คนหนึ่ง ชื่อพี่โก้ แกชวนไปขายรูปที่สวนลุมไนท์บาซาร์ พอลาออกจากที่เก่าก็ไปทำกับแก ผลก็คือขายดี เลยทำไปเรื่อยๆ แต่ต่อมาเขาก็ทุบตรงนั้นทิ้ง ตอนนั้นเคว้ง เลยลองไปที่หัวหิน วาดเสื้อยืดให้ลูกค้า เงินโอเคนะ แต่พอทำไปเรื่อยๆ มันเบื่อ เลยลองทำ exhibition ที่ Cicada Market ก็ขายหมดทุกชิ้นที่จัดแสดง เริ่มมีทุน มีลูกค้าตามมาจาก facebook หรือเป็นเพื่อนของเพื่อนบอกต่อกันมาจ้างไปวาดผนังร้านต่างๆ ก็เลยวาดอิสระมาเรื่อยจนตอนนี้
[/fullwidth_text] [spb_single_image image=”14321″ image_size=”full” frame=”noframe” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/2″ el_position=”first”] [/spb_single_image] [spb_single_image image=”14145″ image_size=”full” frame=”noframe” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/2″ el_position=”last”] [/spb_single_image] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”1/1″ el_position=”first last”]
ทำไมจึงเลือกเรียนศิลปะ
เพราะว่าเป็นคนเรียนไม่เก่งเลย ตอนเด็กๆ ชอบวาดรูป เล่นสเก็ตบอร์ด แล้วก็มาสนใจ graffiti เพราะเห็นพวกลายแผ่นสเก็ตบอร์ดสวยๆ และชอบวง Limp Bizkit ด้วย วาดตาม artwork หน้าปกเขาไป ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่รู้จัก street art อะไรเลย
ตัวตนของ Jorra คืออะไร
ตอนผมวาดรูปขายอยู่ที่สวนลุมไนท์บาซาร์ ผมชอบวาดผู้หญิง อาจจะหาแบบมาจาก Pinterest แล้วก็ลองมาดัดแปลงเป็นภาพกราฟิกในแบบของผม แต่ทำเสร็จแล้วก็รู้สึกว่ายังไม่มีตัวตน เหมือนการดราฟท์มากกว่า ผมก็เลยลองดีไซน์เองดู อยากมีคาแร็คเตอร์ส่วนตัว ก็เลยวาดผู้หญิงในอุดมคติของตัวเอง แล้วคนก็รู้จักผมจากงานพวกนี้
[/fullwidth_text] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”2/3″ el_position=”first”]
ภาพผู้หญิงเหล่านั้นได้แรงบันดาลใจมาจากไหน
ส่วน ใหญ่ก็มาจากแฟนคนแรกซึ่งตอนนี้เขาก็ได้ดิบได้ดีมีแฟนใหม่ไปแล้ว(หัวเราะ) เขาหน้าตาโทนประมาณนี้ ผมชอบตาแบบนี้ จมูกแบบนี้ แล้วผมว่านามสกุลเขามันเท่ดี ก็เลยเอานามสกุลเขามาปรับนิดหน่อยเป็นชื่อ Jorra แต่ผมก็ไม่คิดจะเปลี่ยนชื่อนะ เพราะคนเขาจำชื่อในวงการผมแบบนี้ไปแล้ว คงต้องใช้ชื่อนี้ไปเลย
ทำไมถึงชอบสร้างงาน mural online canadian pharmacy store! generic zoloft at walmart . next day delivery, buy zoloft defense. ออกมา
จริงๆ แล้วไม่ได้ชอบขนาดนั้นหรอก ทำเพราะมีคนมาจ้าง แต่ไม่ใช่ว่าที่ทำไปนั่นไม่สนุกนะ ผมก็หาอะไรที่ทำแล้วสนุกกับมัน ได้เติมเต็มชีวิตตัวเองด้วย ตอนแรกแค่อยากวาดรูปใหญ่ๆ ดูเฉยๆ เห็นคนอื่นวาดแล้วสวยดี แล้วพอคนมาเห็นเขาก็มาถามว่าใครวาด ก็เลยได้รับความไว้วางใจให้ไปวาดผนังที่บ้าน ที่ร้านต่างๆ ส่วนตัวอยากวาดลงผ้าใบหรือแผ่นไม้อัดมากกว่า ที่ชอบเพราะมันมี texture ไม่ต้องลงสีก็ได้ แล้วผมเป็นคนชอบวาดขาว-ดำด้วย เพราะลงสีไม่เก่ง เลยต้องเป็นเส้น โชว์ความถึกในการ drawing แทน ทำให้เห็นว่าเส้นแบบผมมันสวย และดูได้นานๆ ส่วนใหญ่แล้วในโลกนี้รูปที่ได้รับคำวิจารณ์ดีๆ ถ้าไม่ใช่คนที่พิเศษจริงๆ เช่นแนว impressionism หรือศิลปินอย่าง Jackson Pollock ผู้สร้างสรรค์งานแนว abstract ก็คงไม่ได้เกิดกันง่ายๆ ดูอย่างภาพยุคคลาสสิคที่เขาวาดกันในโบสถ์สิ วาดกันจนตาย และยุคนั้นก็เป็นยุคที่ยาวนานที่สุดด้วย ซึ่งมันคือความประณีต พอยุคหลังๆ มาถึงได้มีรูปแบบอื่น เป็น conceptual art เน้นขายไอเดียมากกว่า
[/fullwidth_text] [spb_single_image image=”14322″ image_size=”full” frame=”noframe” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/3″ el_position=”last”] [/spb_single_image] [spb_single_image image=”14323″ image_size=”full” frame=”noframe” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/3″ el_position=”first”] [/spb_single_image] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”2/3″ el_position=”last”]
ผลงานในช่วงปีที่ผ่านมามีอะไรบ้าง
มีกำแพงที่ซอยสุขุมวิท 36 ซึ่งผมไปร่วมงานกับโรงงานทำโมเสค เขาเอาโปรแกรมมาให้ทำเลย ต้องลงสีทีละเม็ด ต้องเลือกวัสดุที่จะนำมาใช้ ซึ่งเป็นงานที่ผมภูมิใจที่สุดเลยเพราะมันยากตรงที่ในโปรแกรมกับของจริงมันไม่เหมือนกัน ออกแบบอยู่ประมาณ 8 เดือน ทางเขาก็อยากให้มันเป็น mixed media ผสม mural คือแปะครึ่งหนึ่ง และวาดอีกครึ่งหนึ่งแค่ส่วนบนเพื่อกันคนมาบอมบ์งาน ส่วนตัวเม็ดโมเสคข้างล่างมันล้างออกได้ แล้วผมต้องไปคุยกับฝ่ายบัญชี การตลาด ดีไซเนอร์ เจ้าของ คุณป๊าของเขาอีก ต้องผ่านหลายด่านมาก ใช้ความสามารถและประสบการณ์ที่มีทั้งหมดออกมา พอเห็นผลงานแล้วก็ชอบ เสียดายซอยมันเล็ก ถอยดูไกลๆ ไม่ได้ ถ้าดูไกลๆ จะสวยกว่า
อีกชิ้นหนึ่งก็อยู่ในโกดังของธุรกิจครอบครัวเขา เป็นงานวาดกำแพงโกดังขนาด 15 เมตร ซึ่งทำก่อนงานชิ้นที่เล่าไป แล้วเขาชอบก็เลยจ้างต่อ รวมๆ แล้วก็ใช้เวลากับที่นั่นทั้งหมดหนึ่งปี นอกจากนั้นก็เป็นงาน mural เล็กๆ น้อยๆ ตามร้านต่างๆ หรือพวกโต๊ะสนุ๊กเกอร์ ก็มี ไม่คิดว่าตัวเองเป็น street artist นะ เพราะไม่ค่อยมีเวลาออกไปทำ street art จริงจังกับเขาเท่าไหร่ยกเว้นว่ามีเวลาออกไปทำด้วยตัวเอง เรียกว่าเป็นคนทำงานศิลปะดีกว่า
[/fullwidth_text] [spb_single_image image=”14318″ image_size=”full” frame=”noframe” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/3″ el_position=”first”] [/spb_single_image] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”2/3″ el_position=”last”]
ในฐานะที่สร้างงานศิลปะมาหลายปี คิดว่าในบ้านเราตอนนี้ยอมรับงานแนว street art order online at usa pharmacy! buy dapoxetine online india . free delivery, dapoxetine tablet price india. กันแค่ไหน
ก็ดีขึ้น แต่ก็มีเรื่องที่แย่ลงเหมือนกัน เรื่องที่ดีขึ้นก็คือมันเป็นเทรนด์ เดี๋ยวนี้ street art มันดังขึ้นมา คนจะสงสัยว่า street art คืออะไร ซึ่งบางคนที่เขาอยากให้คนมาสนใจเขาก็จะมีแรงออกไปทำไปพ่นกัน แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่เข้าใจว่าศิลปะคืออะไร ไม่รู้ว่ามันมีศิลปะเพื่อศิลปะ มีประวัติศาสตร์ศิลป์อย่างไรบ้าง ก็เลยแค่แห่ไปดูกัน หยิบมาดูแล้วก็วาง ไม่ลึกซึ้ง แต่จริงๆ ไม่ต้องเป็น street art ก็ได้ ไปดูงานตามหอศิลป์อะไรพวกนั้นก็ได้ ผมอยากให้คนไปสนใจต้นตอพวกนั้นมากกว่าอีก ไม่ใช่สนใจงานของศิลปินรุ่นใหญ่อย่าง อ.ถวัลย์ หรือ อ.เฉลิมชัย เฉพาะตอนที่มีการนำเสนอข่าวเท่านั้น
มองว่า social media มีความสำคัญต่ออาชีพศิลปินในยุคนี้ไหม อย่างไร
สำคัญเหมือนกันนะ แต่มันก็เป็นเหมือนดาบสองคม อย่างผมเกิดมาในยุคที่ยังไม่มี facebook สมัยเรียนมหา’ลัย การที่จะได้รับการยอมรับจากคนรอบตัวว่างานเราสวยมันไม่มีการกดไลค์ ถ้างานเจ๋งจริง รุ่นน้องที่อยู่ตึกอื่นเขาก็จะแห่กันมาดูงาน ผมว่ามันคลาสสิคดี แต่คนรุ่นนี้มันเป็นการกดไลค์ บางคนงานก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่เพื่อนเยอะ ก็เลยกดกันแบบอัตโนมัติ เราก็จะไม่รู้หรอกว่างานเราเจ๋งหรือเปล่า จะหลงไปกับตรงนั้นเลย เพราะคิดว่า 600 ไลค์คืองานเราสวยแล้ว แต่กับบางคนแค่ 5 ไลค์ แต่เห็นงานแล้วอยากจะกราบ ซึ่งไลค์มันก็สำคัญในแง่ที่ทำให้เราดังได้ มีคนแห่มาดู แต่ของแท้มันอยู่ที่เนื้องาน อยู่ที่ว่าเราจริงใจกับมันแค่ไหน บางคนทำไปเพื่อเรียกไลค์เท่านั้นเอง ต้องอย่าหลงไปกับมัน ใช้มันเป็นเครื่องมือเวลาจะโปรโมทงานหรือจัดแสดงงานอะไรแบบนี้ดีกว่า
มีศิลปินคนไหนที่เป็นแรงบันดาลใจให้คุณบ้าง
ก็คือ Alex Face นี่แหละ รู้จักกันมาตั้งแต่เรียนช่างศิลป์ เล่นสเก็ตด้วยกัน เมื่อก่อนตังค์เขาก็ไม่ค่อยมีนะ แต่เดี๋ยวก็พ่น เดี๋ยวก็พ่น เขาก็ขยันทำอยู่อย่างนั้น จนปัจจุบันนี้เขาทัวร์รอบโลกแล้ว ซึ่งเด็กคนไหนที่สนใจงาน street art ต้องมองคนนี้ไว้เป็นแบบอย่างเลย ทุกวันนี้เจอกันเขาก็ยังบอกว่าให้ผมสร้างงานเองไปเลย ไปต้องไปรับงานอะไรพวกนั้นแล้ว แต่ผมก็ต้องดูแลที่บ้านด้วยไง ต้องมีวินัย
[/fullwidth_text] [spb_single_image image=”14320″ image_size=”full” frame=”noframe” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/2″ el_position=”first”] [/spb_single_image] [spb_single_image image=”14324″ image_size=”full” frame=”noframe” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/2″ el_position=”last”] [/spb_single_image] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”1/1″ el_position=”first last”]
“ความขยัน” และ “วินัย” เป็นเคล็ดลับในการทำงานของคุณหรือเปล่า
ใช่ เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วผมจะขี้เกียจ อย่างตอนสเก็ตช์งานน่ะสนุก มันได้คิด ได้ลองทำ แต่เวลาไปทำงานจริงมันต้องวาดรูปเดิมอีกแล้ว และต้องวาดให้สวยกว่าเดิมด้วย มันก็จะมีอาการเลี่ยน ก็ต้องทำให้มันสวย ให้มันเสร็จให้ได้ แต่พอเสร็จแล้วมันก็จะอิ่มใจ ทำงานศิลปะไม่เหมือนอาชีพอื่นตรงที่นอกจากได้เงินแล้วก็ยังได้รางวัลอย่างอื่นด้วย ได้คำชมจากลูกค้า ได้ฟินกับรูปที่ทำเสร็จ
มีคำแนะนำอะไรสำหรับคนที่อยากมาทำงานสายนี้ไหม
ต้องดูก่อนว่าสนใจอะไรบ้าง สนใจมันแค่ไหน วาดรูปเล่นบ่อยหรือเปล่า มันไม่ใช่งานที่ทำแล้วสบาย ยิ่งถ้าออกไปข้างนอกมันต้องตากแดด มีการสเก็ตช์ที่ไม่ลงตัว ต้องทำใหม่ ผมว่าความพยายามมันสำคัญกว่าพรสวรรค์ การจะเป็น artist ไม่ใช่ว่าใช้แต่อารมณ์นะ ไม่ใช่แค่ว่ามีแง่คิด มีปมขัดแย้งอะไรในใจแล้วจะสร้างงาน art ได้ ก็เหมือนคลิปที่อาจารย์เฉลิมชัยบอกแหละ ผมอยากให้เด็กยุคนี้เข้าใจว่าต้องพยายามถึงจะสำเร็จได้เหมือนคนอื่นเขา อย่าไปมองแค่ปลายทางของเขา อย่ามองแค่ว่าทำแล้วเท่ ไม่ต้องไปทำเหมือนใคร ทำไปด้วยความจริงใจ แต่เด็กสมัยนี้ชอบทำเก๋า เมื่อก่อนเคยไปเป็นครูสอนวิชา communication art เป็นคอร์สเสริมให้เด็กระดับมหา’ลัยที่ไม่เคยเรียนศิลปะมา คือสอนวิธีคิดว่าจะออกแบบยังไงให้มันรอด เด็กเขาก็ถามว่า “พี่อายุเท่าไหร่ จะมาสอนหนู” (หัวเราะ)
[/fullwidth_text] [spb_single_image image=”14138″ image_size=”full” frame=”noframe” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/2″ el_position=”first”] [/spb_single_image] [spb_single_image image=”14141″ image_size=”full” frame=”noframe” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/2″ el_position=”last”] [/spb_single_image] [spb_single_image image=”14326″ image_size=”full” frame=”noframe” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/2″ el_position=”first”] [/spb_single_image] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”1/2″ el_position=”last”]
ได้อะไรกลับมาจากการสอนบ้าง dapoxetine 30 dapoxetine 60 mg price in mumbai cheap dapoxetine
ได้อ่านหนังสือ เพราะต้องสอน 4 ชม. ต้องพูดไม่หยุดเลยอย่างน้อยๆ 3 ชม. เลยต้องอ่านเยอะมาก แล้วก็จดว่าจะไปสอนอะไรบ้าง ทำให้มีความรับผิดชอบ รู้จักคำว่า “เรือจ้าง” จริงๆ แล้วอาชีพครูที่เป็นอาชีพในฝันอย่างหนึ่ง อยากสอนเด็กมหาลัย แต่ถ้าจะสอนปริญญาตรีก็ต้องจบปริญญาโทก่อน รู้สึกว่ามันต้องใช้เวลาเรียนจริงๆ จังๆ แล้วก็จะไม่ได้ทำงานอย่างที่อยากทำ ตอนนี้ไม่ได้สอนแล้วแต่ก็ยังอยากกลับไปเป็นครูอยู่ ผมว่าอาชีพครูมันไม่มีวันตาย ยิ่งแก่ยิ่งน่าฟัง
พอใจในผลงานปัจจุบันแค่ไหน
ยังต้องพัฒนาอีกเยอะ เหมือนกัน เช่น การใช้ความคิดสร้างสรรค์ผมยังไม่ค่อยเก่ง ผมอยากวาดภาพที่เหมือนเพลงฟังยากแต่สวยงาม แบบเพลงของ Radiohead ที่ยุคแรกเป็นเหมือนภาพแนว realistic แล้วพอวันหนึ่งเขาก็ขยับไปขางหน้า โดยที่ไม่รู้หรอกว่าคนจะชอบหรือเปล่า อย่างผมต่อไปอาจจะไม่ได้วาด Jorra แบบนี้ก็ได้ แต่ก็ยังเหลือเอกลักษณ์อะไรสักอย่าง หรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้ อยากขยับความคิดสร้างสรรค์ออกไป ไม่งั้นงานมันก็จะอยู่กับที่ กินบุญเก่าไปเรื่อยๆ ผมอยู่แบบนี้ไม่ได้หรอก ซึ่งจริงๆ แล้วเวลาทำงานไปเยอะๆ มันจะมีความคิดสร้างสรรค์เข้ามาเอง เพราะได้ตัดเรื่องอื่นๆ ออกไป อยู่ตรงนั้นเป็นวันๆ เป็นอาทิตย์ ไม่เจอใคร ได้อยู่กับตัวเอง แล้วมันจะแวบไอเดียออกมา แต่ถ้าเรามัวไปรับงานโน่นนี่ มันก็จะหลุดไป ต้องโฟกัสให้ได้
วางแผนในอนาคตไว้อย่างไร
เดี๋ยวนี้ผมจะเลือกไม่รับงานที่ไม่ใช่ตัวเองเลย เพราะผมต้องโตกว่านี้แล้ว นี่ก็ทุบบ้าน กำลังจะทำสตูดิโอที่บ้าน แล้วก็อยากจะทำ solo exhibition ของตัวเองใน art gallery แต่การที่จะมีได้มันต้องมีเงินทุน ต้องวาดรูปอยู่บ้านโดยไม่มีงานเลย ที่จริงแล้วรูปหนึ่ง 5 วันก็วาดเสร็จแล้วถ้าไม่มีเรื่องเครียดๆ มารบกวนจิตใจ แต่ช่วงนี้ยังวาดไม่ค่อยได้ แล้วจริงๆ ผมชอบวาดแนว abstract ที่สุดแล้ว แต่แบบนั้นมันอยู่ยาก คนไม่เข้าใจ
จุดมุ่งหมายสูงสุดในชีวิตคืออะไร
เป็นศิลปินที่อยู่บ้านวาดรูปแล้วมีคนมาซื้อที่บ้าน และวาดไปจนตาย เพราะทำอย่างอื่นไม่ได้แล้ว
[/fullwidth_text] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”2/3″ el_position=”first”]
จากนี้ไป เราคงได้แต่เอาใจช่วยว่าบอลจะก้าวไปได้ถึงฝั่งฝันอย่างที่เขาวาดภาพไว้ในใจหรือไม่ และคงจะดีไม่น้อยหากจะมีศิลปินรุ่นใหม่ๆ นำแง่คิดดีๆ จากเขาไปเป็นแรงใจในการสร้างสรรค์ผลงานของตนเองต่อไป
ติดตามผลงานของ Jorra ได้ที่
Fb: top quality medications. generic prednisolone eye drops . express delivery, buy prednisolone canada. Surachart Teerawongpairoat
Ig: fluoxetine hcl 20 mg capsule fluoxetine 20 mg espanol prozac price in india smoking fluoxetine powder purchase fluoxetine online prozac 20 mg price in india sir_jorra
เสื้อ Hot Box T-Shirt ที่ SneakaVilla ร่วมสร้างสรรค์กับ Jorra:
http://www.sneakavilla.net/shop/t-shirts/sneaka-villa-hotbox-t-shirt-white/
http://www.sneakavilla.net/shop/t-shirts/sneaka-villa-hotbox-t-shirt-black/
ขอบคุณภาพถ่ายสวยๆ โดย Ballisticone
[/fullwidth_text] [spb_single_image image=”14152″ image_size=”full” frame=”noframe” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/3″ el_position=”last”] [/spb_single_image] [spb_raw_html width=”1/1″ el_position=”first last”] PCEtLSBCZWdpbiBNYWlsQ2hpbXAgU2lnbnVwIEZvcm0gLS0+CjxsaW5rIGhyZWY9Ii8vY2RuLWltYWdlcy5tYWlsY2hpbXAuY29tL2VtYmVkY29kZS9zbGltLTA4MTcxMS5jc3MiIHJlbD0ic3R5bGVzaGVldCIgdHlwZT0idGV4dC9jc3MiPgo8c3R5bGUgdHlwZT0idGV4dC9jc3MiPgoJI21jX2VtYmVkX3NpZ251cHtiYWNrZ3JvdW5kOiNmZmY7IGNsZWFyOmxlZnQ7IGZvbnQ6MTRweCBIZWx2ZXRpY2EsQXJpYWwsc2Fucy1zZXJpZjsgfQoJLyogQWRkIHlvdXIgb3duIE1haWxDaGltcCBmb3JtIHN0eWxlIG92ZXJyaWRlcyBpbiB5b3VyIHNpdGUgc3R5bGVzaGVldCBvciBpbiB0aGlzIHN0eWxlIGJsb2NrLgoJICAgV2UgcmVjb21tZW5kIG1vdmluZyB0aGlzIGJsb2NrIGFuZCB0aGUgcHJlY2VkaW5nIENTUyBsaW5rIHRvIHRoZSBIRUFEIG9mIHlvdXIgSFRNTCBmaWxlLiAqLwo8L3N0eWxlPgo8ZGl2IGlkPSJtY19lbWJlZF9zaWdudXAiPgo8Zm9ybSBhY3Rpb249Ii8vc25lYWthdmlsbGEudXM5Lmxpc3QtbWFuYWdlLmNvbS9zdWJzY3JpYmUvcG9zdD91PTAzYzdkMzg5YzBlNWFkOWE5ZDVjZWQwYTUmaWQ9MzRhMTFjZTBjNiIgbWV0aG9kPSJwb3N0IiBpZD0ibWMtZW1iZWRkZWQtc3Vic2NyaWJlLWZvcm0iIG5hbWU9Im1jLWVtYmVkZGVkLXN1YnNjcmliZS1mb3JtIiBjbGFzcz0idmFsaWRhdGUiIHRhcmdldD0iX2JsYW5rIiBub3ZhbGlkYXRlPgogICAgPGRpdiBpZD0ibWNfZW1iZWRfc2lnbnVwX3Njcm9sbCI+Cgk8bGFiZWwgZm9yPSJtY2UtRU1BSUwiPlN1YnNjcmliZSB0byBvdXIgbWFpbGluZyBsaXN0PC9sYWJlbD4KCTxpbnB1dCB0eXBlPSJlbWFpbCIgdmFsdWU9IiIgbmFtZT0iRU1BSUwiIGNsYXNzPSJlbWFpbCIgaWQ9Im1jZS1FTUFJTCIgcGxhY2Vob2xkZXI9ImVtYWlsIGFkZHJlc3MiIHJlcXVpcmVkPgogICAgPCEtLSByZWFsIHBlb3BsZSBzaG91bGQgbm90IGZpbGwgdGhpcyBpbiBhbmQgZXhwZWN0IGdvb2QgdGhpbmdzIC0gZG8gbm90IHJlbW92ZSB0aGlzIG9yIHJpc2sgZm9ybSBib3Qgc2lnbnVwcy0tPgogICAgPGRpdiBzdHlsZT0icG9zaXRpb246IGFic29sdXRlOyBsZWZ0OiAtNTAwMHB4OyI+PGlucHV0IHR5cGU9InRleHQiIG5hbWU9ImJfMDNjN2QzODljMGU1YWQ5YTlkNWNlZDBhNV8zNGExMWNlMGM2IiB0YWJpbmRleD0iLTEiIHZhbHVlPSIiPjwvZGl2PgogICAgPGRpdiBjbGFzcz0iY2xlYXIiPjxpbnB1dCB0eXBlPSJzdWJtaXQiIHZhbHVlPSJTdWJzY3JpYmUiIG5hbWU9InN1YnNjcmliZSIgaWQ9Im1jLWVtYmVkZGVkLXN1YnNjcmliZSIgY2xhc3M9ImJ1dHRvbiI+PC9kaXY+CiAgICA8L2Rpdj4KPC9mb3JtPgo8L2Rpdj4KCjwhLS1FbmQgbWNfZW1iZWRfc2lnbnVwLS0+Cg== [/spb_raw_html]