[spb_single_image image=”12669″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/1″ el_position=”first last”] [/spb_single_image] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”1/1″ el_position=”first last”]

ภาพถ่ายจากสถานที่ เวลา กล้องและเลนส์รุ่นเดียวกัน แต่คนถ่ายเป็นคนละคนกัน ผลลัพธ์ที่ได้มักออกมาไม่เหมือนกัน เพราะพื้นฐานความคิด ประสบการณ์ และสไตล์ที่แตกต่างกันไป แต่สำหรับ ตั้ม ชนิพล กุศลชาติธรรม ผู้มีอาชีพหลักเป็นสจ๊วตและหลงใหลใน Street Photography ได้ก้าวไปไกลกว่านั้น เขาเลือกที่จะบันทึกภาพถ่ายของสถานที่ต่างๆ ทั้งที่ที่เราเห็นจนชินตา และที่ที่น้อยคนจะได้เห็นด้วยมุมมอง เทคนิค สีสัน และวิธีการเล่าเรื่องที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ลองอ่านบทสัมภาษณ์ข้างล่างนี้แล้วคุณจะเข้าใจว่าทำไม ชื่อ Rockkhound กลายเป็นชื่อที่ user ใน Instagram กว่า 4 หมื่นคนทั่วโลกกด follow

[/fullwidth_text] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”1/2″ el_position=”first”]

จุดเริ่มต้นของการถ่ายรูป

ผมชอบดูรูปถ่ายสวยๆมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว และโชคดีที่ได้ทำงานเป็นสจ๊วต จึงเดินทางบ่อย เลยใช้ iPhone ถ่ายรูปสถานที่ต่างๆเก็บไว้ จนกระทั่ง 3-4 ปีที่แล้ว Instagram เปิดตัวใหม่ๆ ผมก็ได้เข้าไปเล่นตามปกติ จะมีพวก Popular Page และจะเห็นพวกภาพของตากล้องดังๆ ผมก็รู้สึกว่า “เฮ้ย เราก็ทำได้นี่หว่า” ก็เลยเริ่มรู้สึกว่ามันใช่ เริ่มชอบ แล้วพอไปตามอ่านแคปชั่นรูปต่างๆของคนอื่น ก็มักจะมีเขียนไว้ว่า “made by iphone” กันทั้งนั้น ผมก็เลยศึกษาต่อว่าจะแต่งรูปยังไง โดยโหลดพวกแอพแต่งรูปมาลองใช้ ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ต่างอะไรกับพวก Photoshop หรือ Lightroom แต่ว่ามันถูกจำแนกออกมาให้ฟังก์ชันน้อยลง ใช้ง่ายขึ้น ก็เลยใช้สมาร์ทโฟนถ่ายรูปตั้งแต่นั้นมา

ใช้ ไอโฟนถ่ายรูป แล้วแอนตี้ DSLR หรือเปล่า

จริงๆ ไม่ได้แอนตี้ DSLR แต่ใน Instagram (ตอนแรก) ผมพยายามให้มันเป็น iPhone มากที่สุด จนเมื่อประมาณปีที่ผ่านมาได้รู้จักคนคนหนึ่งที่เขาใช้ DSLR ที่ใช้ Instagram เหมือนกันและเป็น street photographer ทำให้ผมอยากขยายขอบเขตมากกว่านี้เพราะมันก็มีบางอย่างที่ iPhone ทำไม่ได้ เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ผมซื้อ DSLR มาเล่นจริงจัง ซึ่งก่อนหน้านั้นยังไม่เคยใช้ DSLR ถ่ายรูปมาก่อนเลย ไม่เคยศึกษามาก่อน และไม่เคยเรียนมา เพราะแค่ใช้ iPhone ก็ถ่ายรูปสวยได้ และทำได้แทบทุกอย่างไม่ว่าจะ long exposure หรือ ถ่ายกลางคืนได้โดยภาพไม่มี noise ก็เลยไม่รู้ว่าจะใช้ DSLR ไปทำไมในตอนนั้น แต่ตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าการใช้ DSLR มันทำให้ได้ภาพที่คมชัดมากขึ้น ผมถ่ายรูปแล้วก็อยากจะ print ภาพตัวเองออกมา คุณภาพที่ได้มันก็คนละระดับกัน แต่พอผมอัพรูปที่ถ่ายด้วย DSLR ลงไปใน Instagram สุดท้ายแล้วทุกคนก็ชอบ ซึ่งมันก็ไม่เกี่ยวกับเครื่องมืออยู่ดี มันอยู่ที่ตัวเรามากกว่า

[/fullwidth_text] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”1/2″ el_position=”last”]

About Chanipol

• เชื่อว่าคนเราอยากจะเก่งเรื่องอะไรต้องศึกษาและต้องพลาดกับมันก่อน
• สไตล์รูปจะเน้น center focus, ความสมมาตร, สถาปัตยกรรม, เส้นตรง, แนวลึก, แนวดิ่ง, และดูแล้วหม่นหมอง
• เป็น perfectionist ถ้าแต่งรูปไม่ได้อย่างที่ต้องการก็จะตัดใจทิ้งรูปเลยแล้วไปถ่ายใหม่

Instagram : @rockkhound

[/fullwidth_text] [spb_single_image image=”12667″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/1″ el_position=”first last”] [/spb_single_image] [spb_single_image image=”12675″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/1″ el_position=”first last”] [/spb_single_image] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”1/1″ el_position=”first last”]

อุปกรณ์ที่ใช้เป็นประจำ

ตอนนี้ผมใช้กล้อง Nikon D610 เป็น full frame ส่วนเลนส์ที่ไปไหนไปด้วยคือช่วง 14-24 เป็นเลนส์ wide ที่ผมชอบ และอีกตัวก็ 50 เอาไว้ถ่าย portrait กับ street photography พร้อมขาตั้งที่สามารถ mount ติดกับอะไรก็ได้ น้ำหนักเบา ใช้ถ่าย long exposure ได้ครับ ส่วน iPhone ก็เอาไปตลอดอยู่แล้ว ปกติผมจะถ่ายด้วย DSLR ก่อนแล้วตามด้วย iPhone อีกครั้ง ที่ทำแบบนี้เพราะมันยังคงเป็น learning process ที่ผมอยากรู้ข้อแตกต่างว่าเป็นอย่างไร และเวลาที่มีเพื่อนๆที่ใช้แค่ DSLR หรือใช้แค่ iPhone มาถามผมว่าอันนี้แต่งรูปยังไง อันนั้นแต่งรูปยังไง จากการที่ผมศึกษามานานก็จะได้มีข้อมูลบอกเขาได้

เลือกโลเกชั่นถ่ายรูปอย่างไร

ผมใช้แผนที่กรุงเทพฯเลยครับ โดยหลีกเลี่ยงที่ที่คนเยอะมากๆ เช่น วัดพระแก้ว ไปเลย เวลาขับรถผมจะมาร์คไว้ว่าแถวไหนมีเส้นทางที่น่าไปถ่ายรูป แล้ววันหลังก็จะไปเดินสำรวจดูว่ามีอะไรน่าถ่ายบ้าง ซึ่งถ้าที่ไหนไม่แน่ใจว่าถ่ายรูปได้ผมก็จะสอบถามเอา ถ้าได้ก็ได้ ถ้าไม่ได้ผมก็จะไม่ไปเซ้าซี้ ไปถ่ายที่อื่นก็ได้ ยังมีอะไรอีกเยอะ อาจจะแค่โดนตึกบังอยู่ ต้องเดินเข้าไปถึงจะรู้ ก็ใช้วิธีนี้มาเรื่อยๆครับ ที่ผ่านมาประทับใจรูปถ่ายจากย่านประตูน้ำมากที่สุด เพราะโตมาจากย่านนี้ เป็นย่านที่ดูมีชีวิตชีวาและตึกสูงเยอะ ส่วนต่างประเทศ ชอบรูปที่ดูไบมากที่สุด เพราะมีทั้งตึกสูงสวยๆ ทะเลทราย บ้านเมืองสะอาด และเครื่องแต่งกายที่มีเสน่ห์

[/fullwidth_text] [spb_single_image image=”12674″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/1″ el_position=”first last”] [/spb_single_image] [spb_single_image image=”12673″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/1″ el_position=”first last”] [/spb_single_image] [spb_single_image image=”12671″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/2″ el_position=”first”] [/spb_single_image] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”1/2″ el_position=”last”]

ข้อแนะนำคนที่อยากถ่าย street photography

อยากให้ศึกษาก่อน ดูเรื่องสถานที่ที่เราจะไปก่อนว่าถนนนั้นมันเป็นยังไงบ้าง มีทางเข้ากี่ทาง ทางออกกี่ทาง ผู้คนพลุกพล่านไหม เป็นชุมชนแบบไหน ถ้าเป็นพวก local downtown ก็อาจจะอันตราย และดูสภาพอากาศด้วย เพราะบางทีโลเกชั่นโอเค แต่รูปใช้ไม่ได้เพราะว่าไม่ได้แสงอย่างที่ต้องการก็จะเสียเวลา แล้วเวลาจะถ่าย ถ้าผมไม่ได้รูปที่ต้องการผมก็ไม่กลับ ต้องเอาจนได้ อย่างถ้าถ่าย indoor ผมจะชอบตอน 11 โมง มีเมฆบังนิดหน่อย ให้แสงมันซอฟท์ลงมา แต่ถ้า outdoor ก็จะหลีกเลี่ยงช่วง 10 โมง ถึงบ่าย 2 แต่ถ้าต้องถ่ายก็จะรอจนเมฆบังพระอาทิตย์นิดนึงจนแสงอ่อน ไม่งั้นแดดแรงๆจะทำให้เกิดเงา แม้ตาเราจะรู้ว่าในเงานั้นคืออะไร แต่พอเข้าคอมแล้วจะมองเห็นแต่สีดำเท่านั้น ก็จะเสียรายละเอียดของรูปไป ถ้าช่วง 5 โมงจะถ่าย portrait สวย แล้วก็อยากให้หาที่ใหม่ๆ มุมใหม่ๆที่คนเขาไม่ถ่ายกัน ใส่ความเป็นตัวเองเข้าไปเยอะๆ เพราะเราก็คงไม่อยากเป็นเหมือนคนอื่น แรกๆเราอาจจะศึกษาจากคนอื่นได้ การดูตัวอย่างจากคนที่ถ่ายสวยมันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่ไม่ใช่ไปเป็นแบบนั้นเลย เมื่อถึงจุดหนึ่งเราจะมองออกว่าเขาถ่ายยังไงถึงได้ภาพแบบนั้น เขาแต่งยังไงให้ได้แบบนี้ เราอาจจะศึกษาว่าแต่งรูปยังไงให้คล้ายเขามากที่สุด ไม่ใช่เพื่อก็อปปี้เขา แต่เพื่อเรียนรู้การใช้อุปกรณ์ จากนั้นเราก็นำสิ่งที่เรารู้ไปปรับให้เกิดเป็นสไตล์ของเราเองได้

อยากให้แนะนำถึงขั้นตอนการแต่งรูปสไตล์ mobile photographer ของตัวเองหน่อย

ใน iPhone ปกติก็จะถ่ายด้วยกล้องของมันเองเลยในโหมด HDR แล้วเริ่มแต่งที่ Snapseed เพื่อปรับให้รูปมันคมชัด ตั้งตรงขึ้น ปรับ brightness ปรับ contrast นิดหน่อย ไม่แต่งเยอะ จริงๆแล้วมันก็ไม่มีอะไรผิด แล้วแต่สไตล์ของแต่ละคนครับ ผมพยายามจะให้มันเรียบง่ายมากที่สุด เพราะอยากจะเล่าเรื่องทำนองว่านี่คือเมืองในแบบที่ผมเห็น ซึ่งมีความแตกต่างในเรื่องของสีและแสงในแบบที่ผมชอบเท่านั้นเอง ทีนี้พอแต่งใน Snapseed เสร็จก็มาใส่สี หลายคนชอบ VSCO ซึ่งก็เป็นทางเลือกที่ดีมากเพราะว่ามันจะออกแนวฟิล์ม มีสไตล์ฟิล์มให้เราเลือกเยอะ ปรับให้เหมาะกับกล้องที่เราใช้ถ่ายได้ด้วย และถ้าใช้ VSCO ใน Lightroom ที่มี filter ให้โหลดมาเป็นแพ็คมันจะแต่งได้ดีมากกว่าใน iPhone แต่ในตอนนี้ส่วนใหญ่ผมจะใช้ Lightroom ที่สามารถแก้ไขได้กว้างกว่า ใส่ filter ของ VSCO ที่เราโหลดมาก็ได้ และยังสร้าง filter ของตัวเองได้ด้วย ผมจะชอบถ่ายให้มัน over นิดนึงเพราะจากการที่ศึกษามาในการถ่ายหลายๆสภาพแสง แบบนี้มัน match กับวิธีแต่งภาพของผมที่สุด ซึ่งพอมาใส่ filter ที่ทำเป็น preset ของตัวเองไว้แล้วมันเวิร์ค มันใช่ พอจบจากนี้แล้วก็อัพได้เลย

[/fullwidth_text] [spb_single_image image=”12672″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/1″ el_position=”first last”] [/spb_single_image] [spb_single_image image=”12670″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/1″ el_position=”first last”] [/spb_single_image] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”1/1″ el_position=”first last”]

ตากล้องที่ชื่นชอบ

ชอบรูปถ่ายแนว adventure photography ของ colerise ซึ่งเขาเป็นนักบินและนักเดินทาง ส่วนแนว street photography ชอบรูปของ trashhand และ 13thwitness

สิ่งดีๆที่ได้รับจากการถ่ายรูปลง Instagram

ได้รู้จักเมืองในมุมที่เราไม่คิดว่าเราจะได้ไป เช่น ตามตรอกซอกซอยต่างๆ ทุกวันนี้ผมทำแผนที่ว่าที่ไหนไปแล้วบ้างก็จะกาทิ้ง ได้เจอเพื่อนใหม่ด้วย มีเพื่อนหลายคนที่ชอบถ่ายรูปแล้วก็ได้เจอ ได้ไปถ่ายรูปด้วยกัน ซึ่งเป็นเพื่อนจาก community ที่ไว้ใจได้ เหมือนว่าเราได้รู้จักคนคนหนึ่งผ่านงานของเขาโดยที่เราไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน แต่พอไปเจอเรากลับรู้สึกว่าเราสนิทกับเขาแล้ว คราวก่อนไปฮ่องกง ก็มีเพื่อนชาวฮ่องกงประมาณ 20-30 คนออกมาเจอกัน แม้กระทั่งบางคนอยู่ไกลถึงมาเก๊า ก็อุตส่าห์เดินทางมาเจอกัน เขาค่อนข้าง support เรื่องนี้กันแข็งแรงมากครับ หลายคนที่ผมรู้จักกันมาตั้งแต่ตอนแรกที่ follow มายังถ่ายรูปไม่เป็นแล้วก็ค่อยๆโตมาพร้อมๆกัน

[/fullwidth_text] [spb_single_image image=”12668″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/1″ el_position=”first last”] [/spb_single_image] [spb_single_image image=”12666″ image_size=”full” frame=”noframe” full_width=”no” lightbox=”yes” link_target=”_self” width=”1/1″ el_position=”first last”] [/spb_single_image] [fullwidth_text alt_background=”none” width=”1/1″ el_position=”first last”]

จุดมุ่งหมายต่อไป

อยากไป road trip ที่อเมริกามาก อยากไปไล่เจอเพื่อนให้ครบแต่ละรัฐ เพราะผมชอบไปดูธรรมชาติ แต่ยังไม่มีโอกาสจะได้ไป อาจจะไปตั้งแต่ Washington ลงมาถึง Miami ไป Cannon Beach ไป National Park ที่ใหญ่ที่สุด แล้วก็อยากไป Iceland ไป Finland ที่มันหนาวสุดๆ ไปถ่ายแสงเหนือที่ใครๆก็อยากจะไปถ่ายกัน ตอนนี้ก็มีทริปขึ้นบอลลูนที่สามารถไปดู Stratosphere ได้ แต่มันใช้เงินหลายล้านเลย(หัวเราะ)

แม้บทสัมภาษณ์จะจบลงเพียงเท่านี้ แต่เราเชื่อว่าในตอนนี้ตั้มคงยังเดินทางถ่ายรูปอยู่ที่มุมไหนสักมุมหนึ่งของโลกเพื่ออัพโหลดรูปสวยๆในแบบของเขาให้ follower ทั้งหลายได้ดูกัน และจากตัวอย่างรูปที่เขาคัดเลือกมาฝากแฟนๆ Sneaka Villa นั้น ทำให้เรานึกถึงประโยคหนึ่งที่เขาบอกไว้ว่า “บางคนเห็นรูปถ่ายสวยๆก็ชอบถามว่าใช้กล้องอะไร ทำไมไม่ถามว่าถ่ายยังไง ถ่ายไปกี่รูป ผมก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่สร้าง perfect picture คืออะไร แต่ผมมั่นใจว่ามันไม่ใช่อุปกรณ์” ซึ่งไม่เกินความจริงเลยแม้แต่น้อย

สุดท้ายนี้  อย่าลืมติดตามภาพถ่ายสวยๆจาก IG: @sneakavibes และเราขอเชิญชวนให้คุณมาร่วมสร้างสรรค์และแชร์ภาพถ่ายจากมุมมองของคุณกับเรา ไม่ว่าจะเป็นภาพจากคน วัตถุ สสาร หรือ สถานที่ อะไรก็ได้ที่แสดงความรู้สึก ด้วยการติด #sneakavibes ในภาพ ไม่แน่…คนที่เราไปสัมภาษณ์คนต่อไปอาจเป็นคุณ

[/fullwidth_text]